ทางการเมืองอาจจะเคยได้ยิน “พฤษภาทมิฬ” แต่ในวงการตลาดหุ้นไทยได้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “พฤศจิกาทมิฬ” หลังเกิดเหตุผิดปกติจากการซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน) หรือ MORE ด้วยมูลค่าที่สูงผิดปกติจาก 300 ล้านบาท พุ่งขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาทเศษในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 จากราคาเปิดตลาด(ATO) ที่ 2.90 บาท ปริมาณซื้อขายสูงถึง 1,500 ล้านหุ้น ส่งผลมีมูลค่าเกือบ 4,500 ล้านบาท
ทำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์วงเงินกว่า 5.3 พันล้านบาท หลังตรวจพบว่า บุคคลที่เกี่ยวข้อง 24 ราย ตั้งคำสั่งซื้อขายหุ้น MORE ในลักษณะเดียวกัน มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน มีหลายเลข IP ตรงกับคำสั่งซื้อขายของและอยู่ในสถานที่เดียวกัน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น MORE ให้บทเรียนกับตลาดหลักทรัพย์เยอะมาก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ต้องกลับมาทบทวนว่า ขั้นตอนการทำงานการกำกับดูแลตลาดหุ้นมีจุดไหนที่ต้องเพิ่มเติมหรือต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่
“เราต้องกลับไปพิจารณาและปรับปรุงทั้งกระบวนการว่า จะทำอย่างไรให้ในอนาคตตลาดทุนไทยมีประสิทธิภาพและได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ร่วมตลาดมากขึ้น เราจึงต้องปรับขบวนการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ” นายภากรกล่าว
ดังนั้นแผนปี 2566 ตลาดหลักทรัพย์ จะเดินหน้านโยบาย Supervision พัฒนาในการกำกับดูแลตลาดหุ้นให้ทันสมัย ปัจจัยสำคัญจากสภาพตลาดหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป และมีพฤติกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาตลาดทุนครั้งนี้จะเป็นการยกระดับตั้งแต่ก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ จนมาถึงการบริษัทที่เป็นสมาชิก ตลอดจนถึงบริษัทที่พ้นสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะจัดทำเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ขณะเดียวกันด้านสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO)เอง ในระยะสั้นจะมีการทบทวนการพิจารณาความเสี่ยง(Risk Profile) ของลูกค้า ปรับปรุงแนวทางการปฎิบัติงานภายใน เพื่อลดและป้องกันความเสี่ยง ส่วนระยะยาวจะมีการพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์และมาตรฐานพร้อมกับพัฒนาศูนย์ข้อมูลเครดิตบูโร เพราะข้อมูลถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ
“การใช้ข้อมูลสำคัญมาก แต่ต้องเหมาะสมแต่ละกลุ่มเช่น ตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นักลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อดีตอาจไม่มีการทำข้อมูลให้ชัดเจน โปร่งใสใช้กับแต่ละคนพอ ตอนนี้ข้อมูลแต่ละคนไม่เหมือนกัน เรามีหน้าที่ให้ข้อมูลอะไร เมื่อไหร่และใครที่จะต้องเป็นคนที่ต้องแสดงบทบาทนั้น จึงได้หยิบยกกรณีของ MORE มาเป็นกรณีศึกษา” นายภากร กล่าว
ส่วนแผนกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (ปี 66-68) ตลาดหลักทรัพย์จะมุ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้านคือ
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,852 วันที่ 12 - 14 มกราคม พ.ศ. 2566