35 ปี “MAKRO” ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น "ซีพีแอ็กซ์ตร้า" ใต้ปีกเจ้าสัวซีพี

21 ก.พ. 2566 | 10:01 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.พ. 2566 | 10:51 น.

เส้นทาง “MAKRO”สู่ "ซีพีแอ็กซ์ตร้า" ปูพรมบุกเบิกเป็นห้างขายส่งรายใหญ่ในประเทศไทย โดยเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่ ปี 2531 เดินทางบนเส้นทางนี้กว่า 35 ปี ใต้ปีกกลุ่มซีพี

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ได้แจ้งเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ชื่อ ย่อหลักทรัพย์ "CPAXTตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา และได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยที่บริษัทฯยังคงใช้แบรนด์การค้าว่า แม็คโคร หรือ MAKRO ตามเดิม

ย้อนไป 35 ปี ก่อนจะมาถึงวันนี้ห้างแม็คโคร ได้ปูพรมบุกเบิกเป็นห้างขายส่งรายใหญ่ในไทยผ่านระบบสมาชิกโดยเริ่มดำเนินกิจการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในเดือนพฤษภาคม 2531 ด้วยทุนจดทะเบียน 750 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบขายส่งในระบบสมาชิก ภายใต้ชื่อ“แม็คโคร” และใช้เวลา 6 ปีผลักดันธุรกิจจนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ปี 2537 ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า MAKRO

ขณะที่ในปี 2564 ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจในการผนึกกำลังโดยการเข้าซื้อหุ้นห้าง Lotus’s ในสัดส่วน 99.9% ในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ด้วยวิธีการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของ CPRH 

ปัจุบัน MAKRO มีบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ถือหุ้น อันดับ 1 สัดส่วน 34.97% ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2-5 ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด  สัดส่วน 24.95% บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง สัดส่วน 17.69% บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด สัดส่วน 8.85% MAYBANK SECURITIES PTE. LTD.สัดส่วน 0.82% ตามลำดับ 

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) MAKRO รายงานผลประกอบการปี 2565 มีกำไรสุทธิ 7,696 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 13,686 ล้านบาท

ไทม์ไลน์ธุรกิจ MAKRO

เหตุการณ์ที่สำคัญที่เกี่ยวกับธุรกิจของ MAKRO ที่ผ่านมากว่า 35 ปี

  • ปี 2531 :  MAKRO จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในชื่อ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด
  • ปี 2532 : เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าสาขาแรก สาขาลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
  • ปี 2537 :  เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อ “MAKRO”
  • ปี 2548 : เข้าซื้อกิจการบริษัท สยามฟูด เซอร์วิส จำกัด เพื่อขยายการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารแช่เย็นและแช่แข็ง
  • ปี 2552 :  เปิดตัวศูนย์จำหน่ายสินค้ารูปแบบอีโค พลัส (Eco Plus Store) แห่งแรกที่เมือง พัทยา จังหวัดชลบุรีประเทศไทย, เปิดศูนย์กระจายสินค้าที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
  • ปี 2555 :  เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้ารูปแบบฟูดเซอร์วิส (Foodservice Store) ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประเทศไทย และขยายธุรกิจสู่ตลาดประเทศเวียดนามด้วยการ จัดตั้งบริษัท Vina Saim Food    
  • ปี 2556 : CPALL เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MAKRO
  • ปี 2557 :  เปิดตัวช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ Makro Application 
  • ปี 2560 :  เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้า Makro สาขาแรกในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา, เปิดตัวระบบ“i-Trace” ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาร่วมกับ CPFเพื่อให้ลูกค้าสามารถ ตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของสินค้าผ่านการสแกน QR Code
  • ปี 2561 : เข้าลงทุนผ่านการซื้อหุ้นใน Indoguna ในสัดส่วนร้อยละ 80 ทำให้เครือข่าย ธุรกิจของ Makro ขยายไปสู่ตลาดในประเทศสิงคโปร์ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • ปี 2562 :  เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้า Makro สาขาแรกในสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เมืองกว่างโจว, เปิดให้บริการผ่านแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายออนไลน์, เปิดตัวศูนย์จำหน่ายสินค้าฟูดเซอร์วิส(FoodserviceStore) ในรูปแบบ “ดิจิทัลสโตร์” สาขาแรกที่ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
  • ปี 2563 : CPALL CPH และ CPM เข้าลงทุนในกิจการ Lotus’s โดยผ่านนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน(CPRH) เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2563
  • ปี 2564 : วันที่ 25 ตุลาคม ได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการ Lotus’s เสร็จสิ้น ด้วยวิธีการ โอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของ CPRH ให้แก่บริษัทฯ
  • ปี 2566 : มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์  ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท สยามแม็คโครจำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO มาเป็น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT