(21 ก.พ. 66) หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมายืนยันแล้วว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 แน่นอน ตามไทม์ไลน์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด โดยตอนนี้ขอรอให้ทาง กกต. ทำกฎหมาย กฎกติกาต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนการยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้
ทำให้การซื้อขายในช่วงบ่ายคึกคักตอบรับกระแสการเลือกตั้ง ก่อนที่ดัชนีปิดตลาดที่ 1,668.63 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น10.94 จุด (+0.66%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66,040.26 ล้านบาท โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,669.51 จุด และต่ำสุดที่ 1,652.25 จุด
หลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 855 หลักทรัพย์ ลดลง 682 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 523 หลักทรัพย์
5 อันดับหลักทรัพย์ซื้อขายสูงสุด
ขณะที่การซื้อขายภาคเช้า ดัชนี SET ปิดตลาดที่ 1,655.57 จุด ลดลง 2.12 จุด (-0.13%)
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน ประเทศไทย เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า หุ้นไทยเปิดภาคบ่ายดีดตัวขึ้น รับข่าวที่นายกรัฐมนตรีออกมายอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการยุบสภาในช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ เพื่อให้ไทม์ไลน์การเลือกตั้งเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้วันที่ 7 พ.ค. 2566 ถือเป็นมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทย สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน "การเดินหน้าเลือกตั้ง" ที่มีความชัดเจน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จากเม็ดเงินที่หมุนเวียนในระบบ โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศ อันเนื่องจากกิจกรรมการหาเสียง การประกาศนโยบายของพรรรคการเมือง
“ภาพตลาดหุ้นโดยรวม ยังทรง ๆตัว เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ ประกอบการประกาศผลประกอบการบจ.ไตรมาส4/65 ที่ออกมาไม่สดใสนัก ดังนั้น ข่าวการเดินหน้าเลือกตั้ง จึงเป็นจิตวิทยาบวกระยะสั้น" นายกิจพณ กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า จากกรณีที่นายกฯ ให้ความเห็นหลังการประชุม ครม.ว่า มีโอกาสยุบสภาฯต้นเดือน มี.ค. 66 เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกำหนดการของ กกต. ไม่เกิน 7 พ.ค. 66 โดยมองว่าการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะไม่ช้ากว่า 7 พ.ค. 2566 มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ Domestic play ในระยะถัดไป เช่น ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก อาหารเครื่องดื่ม สื่อสาร และมีเดีย เป็นต้น