หุ้น TRUE กลับมาเทรดเปิด 8.35 บาท โบรกอัพกำไรแนะซื้อเก็งอัพไซด์

03 มี.ค. 2566 | 03:09 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2566 | 04:14 น.

TRUE กลับมาเทรดเปิดซื้อขายที่ 8.35 บาท โบรกคงแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐานที่ 10.00-10.40 บาท บล.กสิกรไทย ชี้ 3 ปัจจัยหนุน ความสามารถทำกำไร อุปสงค์นักลงทุนสถาบัน จากโอกาสเข้าคำนวณ SET50 และ MSCI

 

3 มี.ค.66 หุ้นบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "TRUE"  กลับเข้าซื้อขายวันแรก หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหุ้น "TRUE-DTAC" รวม 9 วันทำการ (20 ก.พ.-2 มี.ค.2566 ) เพื่อรอให้กระบวนการดำเนินการควบรวมเสร็จสิ้น 

 "TRUE" หุ้นใหม่เข้าซื้อขายในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวนหุ้นจดทะเบียน 34,552,100,801 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 4.00 บาท

โดยเปิดตลาดหุ้นเช้านี้ (3 มี.ค.66) ที่ 8.35 บาท ล่าสุดเมื่อเวลา 10.07 น.ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,064,85  ล้านบาท ราคาปรับสูงสุดที่ 8.40 บาท และต่ำสุดที่ 8.05 บาท 

 

หุ้น TRUE กลับมาเทรดเปิด 8.35 บาท โบรกอัพกำไรแนะซื้อเก็งอัพไซด์

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ประเมินทิศทางราคาหุ้นบริษัทใหม่ TRUE คาดว่าราคาอ้างอิงซื้อขายหุ้นวันแรกจะอยู่ที่ 8.51 บาท ให้ราคาพื้นฐานที่ 10.32 บาท บนปัจจัยหนุน 3 ประการที่จะผลักดันราคาหุ้นของบริษัท TRUE ให้สูงขึ้นหลังจากจดทะเบียนใหม่

  • ประการแรก กลยุทธ์ทางบัญชีบ่งขี้ถึงการทำกำไรของ TRUE ได้ทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการรวมกิจการ  

งบการเงินทั่วไปของ TRUE (mergeco) มีผลจากทุนสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิรวมของ DTAC และผลขาดทุนสุทธิของ TRUE ที่ 1.52 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการด้อยค่าของสินทรัพย์จำนวนมากที่ 8.2 หมื่นล้านบาท และทำให้ค่าสูญสิ้นและค่าตัดการจำหน่าย ( D&A) ที่ 8 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว TRUE (mergeco) สร้างกำไรปกติที่  2.1 พันล้านบาท โดยไม่มีการรับรู้มูลค่าการผนึกกำลังที่อาจเกิดขึ้น และต้นทุนการรวมกิจการที่เกิดขึ้นด้วย 

ทั้งนี้ส่วนแบ่งการตลาด ผู้ใช้บริการเซลลูลาร์ในปี 2565 มีจำนวน 54.9 ล้านคนสำหรับ TRUE (mergeco)  และ 46 ล้านคนสำหรับ ADVANC (54.4% เทียบกับ 45.6%)

อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงประจำที่ (FBB) ในปี 2565 อยู่ที่ 4.97 ล้านรายสำหรับ mergeco และ 4.51 ล้านรายสำหรับ ADVANC และ TTTBB รวมกัน (52.4% เทียบกับ 47.6%)

  • ประการที่สอง เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPG )และ Telenor อาจมีแรงจูงใจในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TRUE อีกฝ่ายละ 29%

กระบวนการแลกเปลี่ยนหุ้นเสร็จสิ้น ผู้ถือหุ้นร่วมถือหุ้นสุทธิ 57.98% ของ TRUE (mergeco) โดย ณ จุดนี้ กลุ่ม CPG และ Telenor ถือหุ้นโดยตรงฝ่ายละ 19.64% ในกิจการที่ตั้งขึ้นใหม่ และกลุ่ม Citrine ถือหุ้น 18.7% ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว CPG และ Telenor ถือหุ้น  29% ของ TRUE เท่า ๆ กัน คณะกรรมการ(บอร์ด )ทั้งสิ้น 11 คน ( ประกอบด้วย 5 คนจาก CPG,  5 คนจาก Telenor และ 1 คนจาก China Mobile) คณะกรรมการได้แต่งตั้งผู้บริหาร 6 คน (3 คนจาก CPG และ 3 คนจาก Telenor)

  • ประการสุดท้าย TRUE น่าจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นสมาชิกของ SET50 และ MSCI ด้วยซึ่งจะผลักดันอุปสงค์หุ้นจากนักลงทุนสถาบัน

บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ"ซื้อ" หุ้น TRUE โดยให้ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท หลังจากปรับเพิ่มกำไร (ARPU ที่เพิ่มขึ้น) และปัจจัยหนุนจาก  1.เรามีความเชื่อมั่นว่าในภาคธุรกิจนี้ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาจะลดลงจากปีนี้  2. คาด TRUE จะบันทึกกำไรทันทีและสูงกว่ากำไรรวมของบริษัทเก่าทั้งสองอย่างมาก และ 3. EV/EBITDA จะลดลงจาก 8.7 เท่า ในปี 2566  ด้วยกลยุทธ์การประหยัดต้นทุน

 

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น TRUE พร้อมให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 10.40 บาทต่อหุ้น โดยในเชิงกลยุทธ์นักลงทุนที่แปลงเป็นบริษัทใหม่จะยังมีการอัพไซด์ประมาณ +/- 20% เทียบกับราคาเหมาะสม จึงแนะนำให้ถือต่อ

ทั้งนี้ คาดกำไรปกติของ TRUE ในปี 2566-2568 ที่ 3,500 ล้านบาท, 12,000 ล้านบาท และ 14,000 ล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากนี้ผลประกอบการของ TRUEE และ DTAC ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำรวมกิจการ (Amalgamation) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ดังนั้นผลขาดทุนในปี 2565 จึงไม่ใช่ผลประกอบการที่แท้จริงของ TRUE ที่จะเข้าเทรดในวันที่ 3 มี.ค.66 และหากตัดรายการดังกล่าวออก TRUE ควรมีกำไรในปี 2565

 

10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ TRUE  ประกอบด้วย

 

  • TELENOR ASIA PTE LTD  ถือ 6,784,994,914  หุ้น สัดส่วน    19.64%
  • บริษัท ซิทริน โกลบอล จำกัด ถือ 4,038,297,160 หุ้น สัดส่วน 11.69%
  • บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือ 3,390,081,179 หุ้น สัดส่วน    9.81%
  • CHINA MOBILE INTERNATIONAL HOLDINGS LIMITED    ถือ 2,698,330,341 หุ้น สัดส่วน 7.81%
  • CITRINE VENTURE SG PTE. LTD. ถือ1,853,030,287 หุ้น สัดส่วน 5.36%
  • บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ถือ1,178,245,390 หุ้น สัดส่วน    3.41%
  • UBS AG HONG KONG BRANCH ถือ 1,103,697,787 หุ้น สัดส่วน 3.19%
  • CHINA MOBILE INTERNATIONAL HOLDINGS LIMITED     ถือ 906,565,523 หุ้น สัดส่วน 2.62%
  • บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ถือ 825,973,207    หุ้น สัดส่วนถือ 2.39%
  • CREDIT SUISSE AG SINGAPORE BRANCH ถือ    757,962,909 หุ้น สัดส่วน 2.19%