ดาวโจนส์ปิดร่วง 55.69 จุด ท่ามกลางซื้อขายผันผวน

08 พ.ค. 2566 | 23:30 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2566 | 23:38 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (8 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

         

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,618.69 จุด ลดลง 55.69 จุด หรือ -0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,138.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.87 จุด หรือ +0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,256.92 จุด เพิ่มขึ้น 21.50 จุด หรือ +0.18%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเกือบทั้งวัน โดยปัจจัยลบส่วนหนึ่งมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทไทสัน ฟู้ดส์ ผู้ผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่ของสหรัฐ และบริษัทคาทาเลนท์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยา

ราคาหุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ปิดตลาดดิ่งลง 16.34% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2566 พร้อมกับปรับลดคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2566 ขณะที่ราคาหุ้นคาทาเลนท์ปิดตลาดทรุดตัวลง 25.74% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรจากธุรกิจหลักในปีงบการเงิน 2566

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคของสหรัฐร่วงลงเกือบ 3% แม้ว่านายพอล เทย์เลอร์ ผู้บริหารของแพคเวสต์ แบงคอร์ป (PacWest Bancorp) บริษัทแม่ของธนาคารแปซิฟิก เวสเทิร์น แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐออกมายืนยันว่า ธนาคารยังคงมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง พร้อมประกาศลดการจ่ายเงินปันผลเพื่อพยุงอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (CET1) ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนปรับตัวลงตามราคาบิตคอยน์ หลังจากไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการถอนบิตคอยน์ โดยหุ้นคอยน์เบส ลดลง 0.24% หุ้นมาราธอน ดิจิทัล ร่วงลง 11% หุ้นไรออท แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 9.10%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพุธและพฤหัสบดีตามลำดับ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 5.0% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากแตะระดับ 5.0% เช่นกันในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนมี.ค.