ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,309.51 จุด ลดลง 221.82 จุด หรือ -0.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,130.62 จุด ลดลง 7.02 จุด หรือ -0.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,328.51 จุด เพิ่มขึ้น 22.06 จุด หรือ +0.18%
หุ้นดิสนีย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 8.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการสตรีมมิงดิสนีย์พลัสทั่วโลกลดลง 4 ล้านราย หรือ 2% สู่ระดับ 157.8 ล้านรายในไตรมาส 1/2566 ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดว่าจำนวนสมาชิกดิสนีย์พลัสจะเพิ่มขึ้นเกือบ 1% สู่ระดับ 163.17 ล้านราย
หุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาคร่วงลง นำโดยหุ้นแพคเวสต์ แบงคอร์ป ทรุดตัวลง 22.70% หลังจากแพคเวสต์ระบุในเอกสารที่แจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ว่า เงินฝากของธนาคารลดลง 9.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานดังกล่าวของแพคเวสต์ได้ฉุดราคาหุ้นของธนาคารระดับภูมิภาครายอื่น ๆ ของสหรัฐดิ่งลงด้วย โดยหุ้นซิติเซนส์ ไฟแนนเชียล ร่วงลง 2.36% หุ้นพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ลดลง 1.11% หุ้นยูเอส แบงคอร์ป ร่วงลง 1.8%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 2% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.8% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.5% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 3.62% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 0.58%
หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ทะยานขึ้น 4.3% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวกูเกิลเปิดตัวเสิร์ชเอนจินรุ่นปรับปรุงที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยฟีเจอร์เสิร์ชที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของกูเกิล รวมถึงแชตบอต "บาร์ด" (Bard) รุ่นปรับปรุงและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น Gmail และหนึ่งในลูกเล่นใหม่ของกูเกิลก็คือฟีเจอร์ที่เรียกว่า "Help me write" ซึ่งจะใช้ AI ช่วยผู้ใช้งานเขียนจดหมายบน Gmail
การเปิดตัวเสิร์ชเอนจินรุ่นปรับปรุงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของกูเกิลในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับบิง (Bing) ซึ่งเป็นเสิร์ชเอนจินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของค่ายไมโครซอฟท์ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของกูเกิลส่งผลให้หุ้นไมโครซอฟท์ปิดตลาดลดลง 0.7%
นักลงทุนจับตาการหารือเรื่องเพดานหนี้รอบ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ (12 พ.ค.) หลังการเจรจาเมื่อวันอังคารไม่ประสบความคืบหน้า โดยนายแมคคาร์ธีระบุว่าการเพิ่มเพดานหนี้จะต้องแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลยอมปรับลดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ปธน.ไบเดนไม่สามารถยอมรับได้
ทั้งนี้ หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์