ต่างชาติไม่มั่นใจการเมือง หลังเลือกตั้ง 10 วัน ขายหุ้นไทยแล้ว 1.6 หมื่นล้าน

24 พ.ค. 2566 | 12:14 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ค. 2566 | 13:04 น.

หลังผ่านการ เลือกตั้ง66 รวม 10 วัน ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องแตะ 16,540 ล้านบาท นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน มองต่างชาติเทขาย เหตุไม่มั่นใจการเมืองไทย รอความชัดเจนนโยบายรัฐบาลใหม่

ตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง หลังผ่านช่วงการ "เลือกตั้ง66" ช่วง 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-24 พ.ค. 66 รวมแล้วกว่า 16,540 ล้านบาท 

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1-24 พ.ค. 66 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวมแล้ว 21,623.00 ล้านบาท ขณะที่ในวันนี้ (24 พ.ค. 66) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 539.77 ล้านบาท 

โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดที่ 1,536.51 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 44,657.53 ล้านบาท

สถาบัน ซื้อสุทธิ 1,146.32 ล้านบาท

บัญชีบล. ขายสุทธิ 379.41 ล้านบาท

ต่างประเทศ ขายสุทธิ 539.77 ล้านบาท

ในประเทศ ขายสุทธิ 227.1 ล้านบาท

ต่างชาติไม่มั่นใจการเมือง หลังเลือกตั้ง 10 วัน  ขายหุ้นไทยแล้ว 1.6 หมื่นล้าน

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาวะตลาดหุ้นไทยที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสุทธิต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งว่า แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติเกิดจากความไม่มั่นใจในการจัดตั้งรัฐบาล 

ถึงแม้ พรรคก้าวไกล จะมีเสียงข้างมากแต่ก็ยังไม่มั่นใจได้แน่นอนว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีการลงนาม MOU กับพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็ตาม โดยยังคงต้องจับตาดูต่อไปในอีกสองเดือน เพื่อรอความชัดเจนจากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

รวมทั้งที่ผ่านมาก่อนเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่ได้ปรับตัวขึ้นเหมือนการเลือกตั้งในหลายหลายครั้งที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตามแรงเทขายของนักลงทุนไม่ได้มาจากฝั่งต่างชาติเพียงอย่างเดียว เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังขาดความมั่นใจในเรื่องอนาคตของรัฐบาลที่ยังเลือนลางใน รวมไปถึงการเปลี่ยน "ขั้วรัฐบาล" จากขั้วเดิมมาเป็นขั้วใหม่ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ทำให้นักลงทุนมีความลังเลในการลงทุนเนื่องจากต้องรอนโยบายที่มีความชัดเจน

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อื่นๆ มองว่าสาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติยังทยอยขายหุ้นไทยต่อเนื่องหลังจากการเลือกตั้งมาจาก 2 ปัจจัย 

โดยปัจจัยแรกในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกหลังจากได้รับเงินปันผลในเดือน มี.ค.-เม.ย. จนมีคำกล่าวกันจนติดปากนักลงทุนว่า "Sell in May and go away"

ขณะที่ปัจจัยที่สอง นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นคือ หลังผลการเลือกตั้งออกมาปรากฎว่า พรรคก้าวไกลได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนโยบายของพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนนโยบายหลายอย่างทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ จึงเทขายหุ้นออกไปก่อน เพื่อรอดูความชัดเจนนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับพลังงานที่มีมาร์เก็ตแคปอันดับ 1 ของตลาดหุ้น โดยประเมินว่าหากนโยบายมมีความชัดเจนโอกาสตลาดหุ้นจะดีขึ้นในปี 2567 มีความเป็นไปได้สูง

นอกจากนี้แหล่งข่าวในตลาดฯ ยังระบุว่า แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อตลาดหุ้นไทย เกิดจากความไม่มั่นใจทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน รวมไปถึงนโยบายที่แน่ชัดจากการสลับขั้วทางการเมือง จึงชะลอการลงทุนออกไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงแทน