บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า "ตลาดหุ้นไทย" ยังมีโอกาสฟื้นช่วงที่เหลือของปี 66 สอดคล้องกับสถิติที่ผ่านมา เมื่อเวลาหุ้นไทยปรับตัวลงในช่วง 6 เดือนแรกของปี ช่วง 6 เดือนหลังมักปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี อย่างเช่นในปี 63 และปี 65
โดยในเดือน พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากความกังวลเรื่องเสถียรภาพ และการเปลี่ยนผ่านนโยบายต่างๆ ทางการเมือง ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทยสูงสุดในภูมิภาคประมาณ 28,000 ล้านบาท
ขณะที่เดือน มิ.ย. 66 ยังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ทั้งในปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ
ปัจจัยต่างประเทศ
เงินสดสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐ ทยอยลดลง และคาดว่าจะหมดลงภายในวันที่ 5 มิ.ย. หากทางสภาครองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้อาจทำให้เกิด Government Shutdown ได้ แต่ถือว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากซึ่ง 33 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 14 มิ.ย. 66 ว่าดอกเบี้ยสหรัฐจะหมดรอบขาขึ้นหรือไม่ โดยปัจจุบันตลาดคาดว่ามีโอกาสเห็น เฟด ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มาอยู่ที่ 5.5% แต่จะเริ่มปรับลงในช่วงปลายปี 66 กดดันสภาพคล่องในสินทรัพย์ เสี่ยงให้ลดลง รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าได้
ปัจจัยภายในประเทศ
การเมือง ติดตามความคืบหน้าตามกรอบเวลา ทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เร็วสุด 11 ส.ค. 66 ควบคู่กับติดตามความคืบหน้านโยบายต่างๆ ใน MOU ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ส่งกระทบต่อตลาดหุ้น
สำหรับในมุมกำไรบริษัทจดทะเบียน แม้กำไรงวดไตรมาสแรกปี 66 ออกมาที่ระดับ 2.67 แสนล้านบาท เติบโต 57.8% (QoQ) และลดลง -8.1% (YoY) ออกมาตามคาด
แต่มุมมองกำไรไตรมาส 2 ปี 66 ปกติจะชะลอตัวลงจากไตรมาสแรก รวมทั้งที่สำคัญคือภาพรวมฐานกำไรฐานกำไรงวดไตรมาสสองปีก่อน อยู่ระดับสูงมากถึง 3.55 แสนล้านบาท ส่งผลให้กำไรไตรมาส 2 ปี 66 ที่เติบโตจำกัด
ด้าน Fund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย สะท้อนความกังวลช่วงเปลี่ยนผ่านทาง การเมืองมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ในภาพระยะยาวแนวโน้มเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ปรับฐานมาแล้ว โดยตลาดหุ้นไทยยังถือว่ามีความน่าสนใจ ทั้ง MEYG ราว 4% ยังสูงกว่า หลายๆประเทศ
หุ้นเด่นในระยะนี้มี 3 ธีม ประกอบด้วย
หุ้นพื้นฐานดีราคาลงมาลึก GULF, BEM, CRC
หุ้นปันผลเด่น KTB
หุ้นกำไรไตรมาส 2 ปี 66 โดดเด่น MINT, TTCL