"เอกะพัน พะพิทัก" มหาเศรษฐีลาว ขยายอาณาจักรทุ่มพันล้านซื้อหุ้น ALPHAX

07 มิ.ย. 2566 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2566 | 10:01 น.

จากการเปิดระดมทุนของ ALPHAX กว่า 4,000 ล้านบาท มีชื่อ "เอกะพัน พะพิทัก" เข้าร่วม ตัวตึงเจ้าของ SMG Group มหาเศรษฐีจาก สปป.ลาว ที่ไม่มีใครไม่รู้จักมาก่อน ทุ่มทุนซื้อหุ้นกว่า 1,243 ล้านบาท

นับได้ว่าเป็นที่ฮือฮาและไม่มีใครรู้จักมาก่อนกับชื่อเสียงเรียงนามของ "เอกะพัน พะพิทัก" เศรษฐี สปป.ลาว เจ้าของกลุ่มศรีเมือง หรือ SMG Group บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกอบธุรกิจใน สปป.ลาว ทั้งรับเหมาก่อสร้าง ยานยนต์ พลังงาน และธุรกิจการเงินอย่าง ธนาคารร่วมพัฒนา (Joint Development Bank :JDB ) 

ด้วยความน่าสนใจในเรื่องนี้เกิดจากการระดมทุนของ บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ "ALPHAX" กว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างเงินทุน และรองรับการเติบโตของบริษัทได้ในอนาคต และจัดทำ PP ในราคาหุ้นละ 1.13 บาท รวม 2,562.5 ล้านหุ้น รวมเป็นมูลค่าโดยประมาณ 2,895 ล้านบาท ให้แก่

  1. นายเอกะพัน พะพิทัก จำนวน 1,100 ล้านหุ้น
  2. นายมนัส ปิยะตรึงส์ จำนวน 1,100 ล้านหุ้น
  3. นายวิวัฒน์ กิตติพงศ์โกศล จำนวน 300 ล้านหุ้น
  4. นางสาวญาณี จีระประภากาญจน์ จำนวน 25 ล้านหุ้น
  5. นายเทพฤทธิ์ ศักดิ์นฤหล้า จำนวน 20 ล้านหุ้น
  6. นายกวินท์ ศักดื์นฤหล้า จำนวน 17.5 ล้านหุ้น

\"เอกะพัน พะพิทัก\" มหาเศรษฐีลาว ขยายอาณาจักรทุ่มพันล้านซื้อหุ้น ALPHAX

อ่านเพิ่มเติมรายละเอียดการเพิ่มทุน ALPHAX : คลิกที่นี่

ทำให้ชื่อของ นายเอกะพัน พะพิทัก เป็นที่รู้จักในไทย ในการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ที่มีมูลค่ารวมถึง 1,243 ล้านบาทเลยทีเดียว หากส่องรายละเอียดของ นายเอกะพัน ยังมีรายชื่ออยู่ 1 ใน 7 คลังสมองด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว อีกด้วย

รวมทั้งประวัติและข่าวต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีข่าวกับซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่มูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมหาเศรษฐีจาก สปป.ลาว ที่ไม่มีใครไม่รู้จักมาก่อน

อย่างไรก็ตามถือได้ว่า ALPHAX กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญรอบใหม่อีกครั้ง ปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างผู้ถือหุ้น พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก OCEAN มาเป็น ALPHAX จากการดึง "เอกะพัน พะพิทัก" มหาเศรษฐีลาว และพันธมิตรเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่

แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ไม่ใช่แค่เพียงโครงสร้างผู้ถือหุ้น เนื่องจากมีโอกาสสูงมากที่แนวทางการดำเนินของ ALPHAX ก็มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนตามไปด้วย เนื่องจากในอนาคตคาดว่าน่าจะเป็นการกระจายการลงทุนจากทางฝั่ง สปป. ลาวเข้ามาที่ไทย 

ซึ่งการทำ Private Placement (PP) โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นการหาพันธมิตรทางธุรกิจเป็นหลัก เพราะถ้าหากบริษัทสามารถเติบโต และสามารถสร้างมูลค่าในอนาคตได้ ก็จะทำให้ผู้ถือหุ้นร่วมก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย

ดังนั้นถือได้ว่าการทำ PP จึงเปรียบได้กับแรงกระตุ้นให้เหล่าพันธมิตรที่เข้าร่วมช่วยกันผลักดันบริษัทให้เติบโตต่อเนื่องในระยะข้างหน้า