ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) ออกหนังสือแจ้ง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STARK" เร่งชี้แจงความคืบหน้าการจัดทำงบการเงินปี 2565 และการจัดทำ Special Audit และรายละเอียดอีก 4 เรื่อง
เนื่องจากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นของ STARK เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และมีผลกระทบต่อผู้ลงทุนในวงกว้าง ตลท. จึงขอให้บริษัทเร่งชี้แจงความคืบหน้าของการดำเนินการ ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ดังต่อไปนี้
1. สถานะการจัดทำและวันที่จะนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 : พร้อมทั้งขอให้ชี้แจงให้ชัดเจนด้วยว่า จะเป็นงบการเงินฉบับสอบทาน หรือฉบับตรวจสอบ และในกรณีที่ไม่สามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ตามที่บริษัทเคยแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ขอให้อธิบายเหตุผลที่ล่าช้าและกรอบ เวลาที่จะนําส่งได้
2. การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีเพื่อมาทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) : ตามคำสั่งของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) รวมทั้งสถานะการจัดทำ และกำหนดเวลาที่จะนำส่งรายงานการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566
3. สถานการณ์และผลกระทบต่อบริษัทอันสืบเนื่องจากการถูกเรียกให้ชำระหนี้หุ้นกู้ รวมถึงแนวทาง ดำเนินการเพื่อชำระหนี้คงค้างต่าง ๆ ของบริษัท : ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ 2 ชุด จำนวน 2,241 ล้านบาท พร้อม ดอกเบี้ย ที่ผู้ถือหุ้นกู้ได้ใช้สิทธิเรียกให้ชำระหนี้โดยพลัน และหนี้ต่าง ๆ ที่เกิดจากเหตุผิดนัดไขว้ (cross default) ที่ครอบคลุมถึงหนี้หุ้นกู้อีก 3 ชุด จำนวนรวม 6,957.4 ล้านบาท ตลอดจนเจ้าหนี้ภายใต้สัญญาทาง การเงินอื่น ๆ ที่อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดในลักษณะเดียวกัน
4. การดำเนินการของบริษัทในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย : ให้เข้ามาเร่งทำการสืบสวน และสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาความคืบหน้าในการดำเนินการของทาง STARK ได้มีชี้แจงการดำเนินการของบริษัท ผ่านระบบเผยแพร่สารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีได้ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566
รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างว่าจ้าง ผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) และจะแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการได้ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2566
พร้อมทั้งรายงานถึงกรณีที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK249A ได้มีมติ "ไม่ยกเว้นเหตุผิดนัดและใช้สิทธิเรียกให้บริษัทชำระหนี้เงินต้น พร้อมทั้งดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้โดยพลัน" ส่งผลให้บริษัทเกิดเหตุผิดนัดไขว้ (cross default) ภายใต้สัญญาทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่าง เจรจาหาทางออกร่วมกับเจ้าหนี้ดังกล่าว
รวมทั้งล่าสุดได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรม สอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวน และสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและ ลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด