STARK ขอยืดเวลาทำ Special Audit คาดออกงบปี 65 ทัน 16 มิ.ย. 66

13 มิ.ย. 2566 | 16:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2566 | 23:33 น.

“STRAK” ส่งหนังสือแจง 4 ประเด็นร้อนต่อ ตลท. มั่นใจออกงบการเงินปี 2565 ฉบับตรวจสอบได้ ภายในวันที่ 16 มิ.ย. 66 ขอยืดเวลา ก.ล.ต. ทำ Special Audit เพิ่มอีก 30 วัน คาดสรุปภายในเดือน ก.ค. 66

บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STRAK" ส่งหนังสือแจ้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยระบุว่า ตามที่บริษัทได้ชี้แจงการดำเนินการของบริษัทผ่านระบบเผยแพร่ สารสนเทศของ ตลท.

ที่คาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ที่ผ่านการสอบทาน จากผู้สอบบัญชีได้ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 และบริษัทอยู่ระหว่างว่าจ้างผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)

รวมถึงการชี้แจงเรื่องมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK249A และการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ผู้จัดการ และ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท

บริษัทจึงขอเรียนชี้แจงความคืบหน้าและข้อมูลสถานการณ์ของบริษัทเพิ่มเติม ดังนี้

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565

บริษัทได้ให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้สอบบัญชีรายบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จํากัด ("PWC") ในการร่วมวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน และบัญชีของบริษัทในการตรวจสอบบัญชีและจัดทำงบการเงิน ประจำปี 2565 ตามแผนการดำเนินงานที่ได้ชี้แจงต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยการดำเนินการ ดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งผู้สอบบัญชีคาดการณ์ว่าจะสามารถออกงบการเงินฉบับตรวจสอบได้ภายใน วันที่ 16 มิถุนายน 2566 เมื่อผู้สอบบัญชีจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะดำเนินการเรียกประชุมสามัญประจำปีของ ผู้ถือหุ้นเพื่อรับรองงบการเงินประจำปี 2565 และแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2566 ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2566

ความคืบหน้าของการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit)

หลังบริษัทได้มีมติอนุมัติการแต่งตั้งให้ PwC เป็นผู้สอบบัญชีเพื่อดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit)
เนื่องจาก PwC เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบพิเศษ (special audit) แต่เดิม มีความรู้ความเข้าใจต่อข้อมูลของบริษัทเป็นอย่างดี สามารถดำเนินการตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลแต่ก็ยังมีข้อมูลหลายส่วนที่บริษัทยังรอข้อมูล หรือตรวจพบข้อจำกัดเกี่ยวกับการตรวจสอบย้อนกลับ
รวมทั้งการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติมมีเอกสาร และข้อมูลที่ต้องตรวจสอบเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ครอบคลุมธุรกรรมการขาย ลูกหนี้ การรับชำระหนี้ของบริษัทย่อยรายที่สำคัญ
ทางบริษัท และผู้สอบบัญชีได้ประเมินความพร้อมของข้อมูลร่วมกัน และคาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการ ตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่ สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ได้
บริษัทจึงได้ขอความอนุเคราะห์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในการ ขยาย ระยะเวลาเพื่อดำเนินการในส่วนนี้อีก 30 วัน เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงอย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในงบการเงิน
ทำให้คาดว่าจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยาย ผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit) ภายในเดือนกรกฎาคม 2566 โดยจะรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานให้ทราบเป็นระยะ

สถานการณ์และผลกระทบต่อบริษัทอันสืบเนื่องจากการถูกเรียกให้ชำระหนี้หุ้นกู้ รวมถึงแนวทาง ดำเนินการเพื่อชำระหนี้คงค้างต่าง ๆ ของบริษัท

หลังมติผู้ถือหุ้นกู้ของหุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK2494 ไม่ยกเว้นเหตุผิดนัด และใช้สิทธิ เรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน จึงเป็นเหตุให้หนี้เงินต้นค้างชำระรวม จำนวน 2,241,000,000 บาท และดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้หมายเลขดังกล่าวถึงกำหนดชำระโดยพลัน
เหตุผิดนัดดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดการผิดนัดไขว้ (Cross default) ในหุ้นกู้อีก 3 ชุดและสัญญาทางการเงินของบริษัท กล่าวคือ เป็นเหตุผิดนัดภายใต้ (ก) หุ้นกู้ชุด STARK245A STARK255A และ STARK242A ซึ่งมีเงินต้นค้างชำระรวม จำนวน 6,957,400,000 บาท และ (ข) สัญญาทางการเงินอื่น ๆ ของบริษัท
บริษัทจึงต้องดำเนินการหาทางเจรจากับ เจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องที่อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อผู้สอบบัญชีได้เปิดเผยงบการเงินประจำปี 2565
บริษัทจะปรับปรุงและสรุปแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและ ระยะยาวให้สอดคล้องกับผลประกอบการตามงบการเงินประจำปี 2565 รวมถึงแผนการขอเจรจากับเจ้าหนี้สำคัญต่าง ๆ
เพื่อหาแนวทางบริหารการชำระหนี้ร่วมกัน และป้องกันไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้ ตลอดจนลดความเสี่ยง อันเกิดจากการกระทำใดๆ ที่อาจถือเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือความเสี่ยงในการถูกเพิกถอนการชำระหนี้

การดำเนินการของบริษัทในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายให้ เข้ามาเร่งทำการสืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด

บริษัทได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษ ตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ที่ผ่านมาบริษัทได้ให้ความร่วมมือ ในการให้รายละเอียดเชิงลึกตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้ขยายผลให้แก่ทั้ง 2 หน่วยงานข้างต้นเป็นระยะ ๆ และได้ทยอยส่ง มอบข้อมูลและหลักฐานต่าง ๆ ตามที่บริษัทมีให้แก่ทั้งสองหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการรวบรวม พยานหลักฐาน การทำงาน และการสืบสวนของทั้งสองหน่วยงาน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากข้อจำกัดในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย บริษัทจึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด อื่น ๆ ในเรื่องนี้ได้ จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ในการแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ (ตามความเห็นของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ให้กับตลาดหลักทรัพย์ทราบในภายหลังต่อไป

อ่านรายละเอียดเอกสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่