บล.ธนชาต แนะกันเงินซื้อหุ้นราคาถูกช่วงก.ค.-ส.ค. เหตุการเมืองกดดัน

16 มิ.ย. 2566 | 23:49 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2566 | 23:55 น.

กูรูบล.ธนชาต มองหุ้นไทยปีนี้ปรับลงในโซนราคาถูก แต่นักลงทุนไม่ควรทุ่มซื้อหมดหน้าตัก ให้เก็บเงินเข้าซื้อช่วง ก.ค.-ส.ค. เหตุปัจจัยการเมืองกดดัน เชื่อตลาดจะฟื้นหลังจัดตั้งรัฐบาล

นางสาวพิมพ์ผกา นิจการุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เผยถึงสภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ว่า เป็นจุดที่ท้าทายและยากลำบากสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีความไม่แน่นอนในหลายๆประการ ทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ว่าจบรอบขึ้นหรือยัง ความเสี่ยงของการเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศตะวันตกหลังการขึ้นดอกเบี้ยที่ลาดชัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าคาด รวมถึงความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาลไทย
 

หลักทรัพย์ธนชาต มีมุมมองและกลยุทธ์การลงทุนใน SET ในช่วงสภาวะที่ท้าทายดังนี้

  • 1) เนื่องด้วย SET ได้ปรับตัวลงในปีนี้มาแล้วมากกว่าเกือบทุกตลาดหลักๆทั่วโลก จึงทำให้หุ้นหลายๆ ตัวเข้าสู่โซนราคาถูกแล้ว นักลงทุนจึงควรลงทุนบางส่วนซื้อหุ้นใน SET  
  • 2) ถึงแม้ว่ายังมีความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ย Fed Funds จะปรับตัวขึ้นอีกครั้งที่ 0.25% แต่รอบดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นั้นใกล้จะจบแล้ว และอัตราดอกเบี้ยอาจจะเริ่มลงภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า ทำให้ความกังวลเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นกำลังจะหายไป  
  • 3) เศรษฐกิจจีนโตช้ากว่าที่คิด แต่ก็ยังคงเติบโต ในขณะที่เที่ยวบินจีนที่จะมาไทยก็กำลังขยายตัว ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้นในครึ่งปีหลังนี้  
  • 4) เศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศ มีแค่การส่งออกที่ติดลบและเป็นตัวฉุดอยู่บ้าง แต่ฐานะทางการเงินของไทยนั้นมั่นคงมากอยู่แล้ว ประกอบกับงบรัฐบาลในปีนี้มีรายได้ที่เกินเป้ามาโดยตลอดทุกเดือน

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทำให้ตลาดไทยซึ่งหล่นลงมามากแล้ว อยู่ในระดับที่น่าซื้อ แต่ที่ยังไม่ควรซื้อเต็มที่เพราะปัจจัยการเมืองในประเทศ การจัดตั้งรัฐบาลที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการประท้วงของประชาชนบางกลุ่มช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นปรับลดลงกว่าในปัจจุบันได้อีก นักลงทุนจึงควรเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อลงทุนในช่วงนั้น เพราะจะมีหุ้นราคาถูกเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดว่าในที่สุดการเมืองจะมีทางออก และจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ในที่สุดไม่เกินเดือนสิงหาคมหรืออย่างช้าในเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ตลาดน่าจะฟื้นตัวหลังจากนั้น
 

 

ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาวะตลาดที่มีความผันผวนในปัจจุบัน บริษัทจะใช้จุดแข็งของบริษัทในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่ยาวนานกว่า 40 ปี  ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์นักลงทุน  บทวิเคราะห์เชิงลึกที่ทันต่อสถานการณ์ และทีมนักวิเคราะห์การลงทุนที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของบริษัท  

โดยล่าสุด บริษัทได้รับการจัดอันดับโดย Institutional Investor (II) Poll 2023 ให้เป็นอันดับที่ 1 Best Local Broker (Onshore) อันดับที่ 2 Best Local Broker (Overall) และอันดับที่ 1 Best Analyst นักวิเคราะห์ยอดเยี่ยมใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ Consumer Discretionary, Healthcare, Pharma & Biotech, Small & Midcap Stocks  และ Technology Semiconductors  รวมถึงอันดับที่ 3 Best Salespeople โดย Institutional Investor (II) Research เป็นบริษัทจัดอันดับงานวิจัยด้านการเงินและการลงทุนชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากว่า 50 ปี ซึ่งการจัดอันดับมาจากการสำรวจ (vote) ความคิดเห็นของนักลงทุนสถาบันทั่วโลก
 
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุน รวมถึงบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างทีมและพัฒนาบุคลากรในสายงานต่าง ๆ ให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ด้วยความรู้ ความซื่อสัตย์ในอาชีพการงาน และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของหลักทรัพย์ธนชาตที่ต้องการ “สร้างอิสรภาพทางการเงินให้กับนักลงทุน” (To make financial freedom a reality)