หลังจากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยที่ได้รับความเสียงหายจากการลงทุนในหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ร่วมลงทะเบียน เพื่อดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบฟ้องหมู่ หรือ Class Action เรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ล่าสุดดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัดเปิดเผยว่า มีผู้ลงทุนรายย่อยเข้าชื่อกันแล้วมากกว่า 661 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 1,100 ล้านบาท โดยจะรวบรวมผู้เสียหายไปจนถึงวันที่ 25 มิถุนายนนี้ คาดว่า จะมีผู้เข้าชื่อร่วมดำเนินคดีกลุ่มไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย จากผู้ถือหุ้นทั้งหมดมากกว่า 10,000 ราย
ทั้งนี้หุ้น STARK เคยมีมูลค่าสูงสุดตามราคาตลาด ที่ราคา 5.50 บาท อยู่ที่ 73,733 ล้านบาท แต่ล่าสุดถึงวันนี้ (21มิถุนายน) ราคาหุ้นลงมาต่ำสุดที่ 0.01 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด หรือเหลือเพียง 135 ล้านบาท เท่ากับเงินละลายไปกับหุ้นตัวนี้มากถึง 73,598 ล้านบาท
“ผู้ลงทุนหุ้นสามัญกับหุ้นตัวนี้เป็นผู้แบกรับความเสียหาย แทบจะกลายเป็นศูนย์ เมื่อเทียบกับเจ้าหนี้มีหลักประกัน เจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้หุ้นกู้ที่ยังอาจพอมีหวังได้รับเฉลี่ยหนี้คืนบ้าง แม้ว่านักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จะมีคำเตือนไว้แล้วว่า”การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” แต่ก็ต้องเป็นความเสี่ยงจากความผิดพลาดในการลงทุนตามปกติธุรกิจ”ดร.ณัฐวุฒิกล่าว
กรณี STARK เกิดจากการกระทำอันไม่สุจริตของผู้เกี่ยวข้อง ทางผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อรวมรวมหลักฐานในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม เพื่อดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบฟ้องหมู่ หรือ Class Action โดยนักลงทุนรายย่อยที่ตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายจากมูลค่าหุ้น 73,733ล้ านบาท จนแทบจะกลายเป็นศูนย์
บริษัทได้รับการประสานงานสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ให้กรอกแบบฟอร์มข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยขอให้กรอกรายละเอียดได้ที่นี่ ภายในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เนื่องจากตลาด หลักทรัพย์ได้กำหนดให้หุ้น STARK ซื้อขายถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เป็นวันสุดท้าย และอาจจะห้ามการซื้อขายยาวระหว่างการฟื้นฟูกิจการ และตอนนี้ราคาก็ลงมาต่ำสุดที่ตลาดกำหนดแล้ว หากเหยื่อผู้เสียหายจะเข้าชื่อกันก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
ทั้งนี้ในจำนวนที่เข้าชื่อกันมา มีผู้เสียหายตั้งแต่ระดับหลักหมื่นบาท ไปสูงสุดถึงหลักร้อยล้านบาท การดำเนินคดีแบบกลุ่มดังกล่าว ในกรณีทำนองเดียวกันนี้มีบทเรียนว่าผู้เสียหายชนะคดีมาแล้ว และได้รับเฉลี่ยเงินคืน ส่วนคนที่ไม่เข้าชื่อขอเรียกร้องสิทธิ์ก็ย่อมไม่ได้รับประโยชน์ หรือคสามเป็นธรรมใดๆ จึงขอเชิญชวนให้ลงชื่อตามกำหนด
การฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มดังกล่าว จะมีการแต่งตั้งผู้แทนของเหยื่อผู้เสียหายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่เหลือทั้งหมดเพียงแต่รวบรวมหลักฐานความเสียหายร่วมยื่นฟ้องเท่านั้น ทั้งนี้ได้มีนักกฎหมาย ทนายความผู้รักความเป็นธรรม เชี่ยวชาญทั้งคดีกลุ่ม คดีธุรกิจร่วมกันเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการตามกฏหมาย เพื่อหวังจะให้เกิดความยุติธรรม เกิดบทเรียน และป้องปรามพฤติการณ์ฉ้อฉลในตลาดหุ้นในอนาคตต่อไป