หุ้น STARK เทรดวันสุดท้าย ปิดที่ 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 25.69 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ หุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "STARK" ว่า ในวันสุดท้ายของการเปิด ซื้อ-ขาย ช่วงระหว่างวันที่ 1 ถึง 30 มิ.ย. 66 ราคาปรับตัวลดลงมาปิดที่ระดับ 0.02 บาทต่อหุ้น

ซึ่งราคาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาปิดก่อนหน้า โดยระหว่างวันทำราคาสูงสุดที่ระดับ 0.03 บาทต่อหุ้น และราคาต่ำสุดที่ระดับ 0.02 บาทต่อหุ้น ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 25.69 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น STARK ก่อนขึ้นเครื่องหมาย "SP" (ครั้งแรก) เมื่อ 28 ก.พ.66 อยู่ที่ 2.38 บาท และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP นาน 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค.- 31 พ.ค.66 และกลับมาเปิดให้ซื้อ-ขายอีกครั้งระยะเวลา 1 เดือน ช่วงวันที่ 1 - 30 มิ.ย. 66

ก่อนขึ้น SP อีกครั้งในตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 66 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมา ซื้อ-ขาย ได้ตามปกติ

ด้าน ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น กล่าวถึง การที่นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เสนอ 4 แนวทางในการแก้ไขวิกฤตของ STARK โดยจะใช้เวลาถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 66 นั้นเปรียบเสมือนเป็นการมัดมือมัดเท้าผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

โดยเเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทมากกว่า 11,000 ราย เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้ซื้อขายวันนี้ (30 มิ.ย.) เป็นวันสุดท้าย โดยที่มีข้อมูลที่ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจสำคัญ และกระทบต่อการได้เสียมหาศาล

รวมทั้งหากยังไม่มีความชัดเจน และแนวทางเพิ่มทุนล้มเหลว อาจนำไปสู่แนวทางต่อไปคือยื่นล้มละลาย ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นไว้เสี่ยงต่อมูลค่าที่จะกลายเป็นศูนย์