"ทรีนิตี้"แจกโพย 6 ธีมลงทุนหุ้น Q3 เตือน! ครึ่งแรกก.ค.ผันผวนสูง

04 ก.ค. 2566 | 02:41 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ค. 2566 | 03:03 น.

“ทรีนีตี้” มองหุ้นไทย ก.ค. ครึ่งแรกผันผวนสูง ให้กรอบดัชนี 1450-1550 จุด แนะถือหุ้นที่ได้ทยอยซื้อบริเวณดัชนี SET ต่ำกว่าระดับ 1490 จุด และหาจังหวะขายทำกำไรบริเวณกรอบแนวต้าน 1520 และ 1550 จุด เปิดโพย 6 ธีมลงทุนหุ้น

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนกรกฎาคม 2566 ว่า สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนก.ค. มีโอกาสปรับตัวผันผวนสูง

โดยในช่วงแรก คาดว่าดัชนีจะแปรผันไปตามพัฒนาการของปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ที่จะเริ่มมีการเปิดสภาฯในช่วงต้นเดือนเพื่อเลือกประธานสภาฯ ก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงกลางเดือน หากทุกอย่างเป็นไปตาม Timeline ดังกล่าวและไม่มีอุปสรรค ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวรีบาวด์ในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคมได้ ในทางกลับกัน หากมีความยืดเยื้อเกิดขึ้น ประเมินว่าดัชนีมีโอกาสที่จะถูกดดันเพิ่มเติมจากระดับ Risk premium ของประเทศที่ปรับสูงขึ้นอีกครั้ง
 

 สำหรับปัจจัยต่างประเทศในช่วงต้นเดือน มองไปยังบรรยากาศผ่อนคลายจากรายงานตัวเลข PCE ของสหรัฐฯที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทำให้ Bond yield ผ่อนคลายการปรับขึ้นช่วงสั้น สอดคล้องกับ Fed Funds futures ที่ผ่อนคลายลง แต่ทั้งนี้ หากเข้าใกล้ช่วงสิ้นเดือนที่มีการประชุม FOMC วันที่ 25-26 ก.ค.แล้ว ตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นว่า Fed มีโอกาสกลับมาขึ้นดอกเบี้ยจริง อาจเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนที่รออยู่

ส่วนประเด็นเฉพาะตัวของตลาดหุ้นไทยที่อาจมองข้ามไม่ได้ก็คือการหลุดออกจาก Trading alert list ของหุ้น DELTA ในวันที่ 11 ก.ค. ซึ่งอาจนำมาสู่ความผันผวนของดัชนีหุ้นไทยที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะดัชนีหุ้นขนาดใหญ่อย่าง SET50 รวมไปถึงตราสารอ้างอิงอย่าง Index futures

สำหรับสภาพคล่องภายในประเทศนั้นยังน่าเป็นห่วง โดยล่าสุดการขยายตัวของ M2 ในเดือนพ.ค.อยู่เพียง 1.89% ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2002 และที่สำคัญ ระดับ M2 ได้มีการปรับลดลงติดกันมา 2 เดือนแล้ว มองเป็นปัจจัยลบต่อสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยต่อไป โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งยังคงแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง
 

นายณัฐชาต กล่าวว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET Index ในเดือนก.ค.ที่ระดับ 1450-1550 จุด โดยมองกรอบแนวรับแรกที่ระดับ 1480 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1450 จุด ส่วนแนวต้านแรกมองที่ 1520 จุด และแนวต้านสำคัญมองที่ 1550 จุด ในเชิงกลยุทธ์ แนะถือหุ้นที่ได้ทยอยซื้อบริเวณดัชนี SET ต่ำกว่าระดับ 1490 จุดก่อนหน้านี้ และหาจังหวะ Take profit บริเวณกรอบแนวต้าน 2 แนวที่กำหนดไว้

6 ธีมการลงทุนหุ้น Q3/66

สำหรับธีมการลงทุนและกลุ่มหุ้นแนะนำประจำไตรมาส 3/2023 ได้แก่

  • 1.กลุ่มที่อิงกับภาคการบริโภคภายในประเทศ ได้แก่ BBL, KTB, CPALL, CPAXT, BJC, CRC
  • 2.กลุ่มที่อิงกับภาคการท่องเที่ยว ได้แก่ ERW, SPA, AU
  • 3.กลุ่มโรงพยาบาลที่เตรียมจะผ่านพ้น Seasonal low ในช่วงไตรมาส 2 ได้แก่ BH, BDMS, BCH, CHG, PR9
  • 4.กลุ่มพลังงานที่ราคาหุ้นปรับลงมามาก รับข่าวร้าย Earnings ที่อ่อนแอในไตรมาส 2 ไปแล้ว ได้แก่ BCP, IRPC, PTTGC, TOP
  • 5.กลุ่มส่งออกอาหาร/เกษตรที่จะเห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานใน 2H23 ได้แก่ BTG, CPF, GFPT  และ  
  • 6.กลุ่มที่ Price in นโยบายทางการเมืองไปมากแล้วจน Valuation อยู่ในโซนที่น่าสนใจ ได้แก่ GULF, BGRIM, GPSC, TRUE