วันนี้ (2 ส.ค.66 ) จากกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศผลการหารือกับพรรคก้าวไกล และต่อสายคุยกับอีก 6 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดิมในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อแจ้งว่า พรรคเพื่อไทย ขอเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล เนื่องจากติดเงื่อนไขเรื่องการแก้ไข ม.112 ที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคไม่สำเร็จ
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะเจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยจะเสนอชื่อ "นายเศรษฐา ทวีสิน" เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งประกาศนโยบายสำคัญของรัฐบาลใหม่ คือการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดความยุ่งยาก ด้วยการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำประชามติให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งหลังจากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว พรรคเพื่อไทยจะคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะได้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พาย ระบุว่า หาหุ้นรับรัฐบาลใหม่ โดยนโยบายที่คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำที่ทำได้ทันที และเป็นผลบวกต่อการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยว
นโยบายหลักพรรคเพื่อไทย ได้แก่
อย่างไรก็ดีเบื้องต้น ยังไม่มีรายละเอียดในแต่ละโครงการ และบางโครงการอาจทำไม่ได้ เช่นเงินดิจิตอล แต่เชื่อว่าหลังจากจัดตั้งรัฐบาล จะเห็นมาตรการเร่งด่วนเกี่ยวกับการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
โดยกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ : ค้าปลีก / ท่องเที่ยว / โรงพยาบาล / ธนาคาร / พลังงานทางเลือก
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ : สินเชื่อรายย่อย / โรงไฟฟ้า
บล.พาย ได้แนะนำ 11หุ้น ได้แก่ BBL, KTB, TISCO, AOT, CENTEL, CPN, CPALL, BJC, HMPRO, GLOBAL, BCPG