เปิดโผหุ้น รับนโยบาย "เพื่อไทย" นำจัดตั้งรัฐบาลแบบไร้ก้าวไกล

02 ส.ค. 2566 | 09:53 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2566 | 10:05 น.

เปิดโผหุ้นรับรัฐบาลใหม่ ภายใต้แกนนำ"พรรคเพื่อไทย"ไม่มีก้าวไกล โบรก ฯ มองเป็นผลบวกต่อค้าปลีก , ท่องเที่ยว ,โรงพยาบาล , ธนาคาร และพลังงานทางเลือก คัด 11 หุ้นได้ประโยชน์

วันนี้ (2 ส.ค.66 ) จากกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศผลการหารือกับพรรคก้าวไกล และต่อสายคุยกับอีก 6 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดิมในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อแจ้งว่า พรรคเพื่อไทย ขอเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล เนื่องจากติดเงื่อนไขเรื่องการแก้ไข ม.112 ที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคไม่สำเร็จ

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะเจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยจะเสนอชื่อ "นายเศรษฐา ทวีสิน" เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งประกาศนโยบายสำคัญของรัฐบาลใหม่ คือการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดความยุ่งยาก ด้วยการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำประชามติให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งหลังจากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว พรรคเพื่อไทยจะคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที   ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะได้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พาย ระบุว่า หาหุ้นรับรัฐบาลใหม่ โดยนโยบายที่คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำที่ทำได้ทันที  และเป็นผลบวกต่อการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยว

นโยบายหลักพรรคเพื่อไทย ได้แก่

  • เงินดิจิตอล 10,000 บาท 
  • ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นบาท
  • เกษตรรายได้เพิ่ม 3 หมื่นบาทต่อไร่ต่อปี
  • เสริมสร้างการท่องเที่ยวสนับสนุนประเทศไทยให้เป็น Festival Hub of Asia, Regional Transportation Hub, Wellness Destination Hub
  • มาตรการแก้หนี้ครัวเรือน
  • มาตรการลดค่าไฟฟ้า
  • สนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก

  

อย่างไรก็ดีเบื้องต้น ยังไม่มีรายละเอียดในแต่ละโครงการ และบางโครงการอาจทำไม่ได้ เช่นเงินดิจิตอล แต่เชื่อว่าหลังจากจัดตั้งรัฐบาล จะเห็นมาตรการเร่งด่วนเกี่ยวกับการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ 

โดยกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ : ค้าปลีก / ท่องเที่ยว / โรงพยาบาล / ธนาคาร / พลังงานทางเลือก
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ : สินเชื่อรายย่อย / โรงไฟฟ้า 

บล.พาย ได้แนะนำ 11หุ้น ได้แก่  BBL, KTB, TISCO, AOT, CENTEL, CPN, CPALL, BJC, HMPRO, GLOBAL, BCPG