WAVE โชว์ผลงานไตรมาส 2/66 รายได้พุ่ง 79% ทะลุ 100 ล้าน

10 ส.ค. 2566 | 03:54 น.
อัพเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2566 | 03:55 น.

เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล “WAVE” โชว์ผลงานไตรมาส2/66 รายได้กว่า 109 ล้านบาท โต 79% หลัง Wall Streeet English เปิดเรียนเต็มรูปแบบ พร้อมรับรู้รายได้จากการขายหุ้นเมกะวัตต์ รวม 6 เดือนรายได้แตะ 213 ล้านบาท

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อยไตรมาส 2 ของปี 2566 ณ วันที่ 30 มิ.ย. 66 มีรายได้รวม 109.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 61 ล้านบาท 

หลังสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Wall Streeet English สามารถเปิดการเรียนการสอนได้เต็มรูปแบบ ทั้งคอร์สแบบเรียน On-site รวม 13 สาขา และในรูปแบบออนไลน์ ส่งผลให้ภาพรวมของรายได้ของธุรกิจสอนภาษาเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทมียอดขายเป็นอันดับ 1

นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้รับล่วงหน้า (Cash Sale) จากนักเรียนที่ซื้อคอร์สเรียนล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 20% จาก 158.70 ล้านบาท เป็น 189.96 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565  ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในงบการเงินเมื่อนักเรียนมาใช้บริการ

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน)

"บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเปิดสาขาเพิ่มเองในพื้นที่ที่มีศักยภาพ รวมถึงการขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์ตามที่บริษัทได้ลงนามในสัญญากับ Sub-Franchisee  2 ราย เพื่อร่วมมือทำแฟรนไชส์ในพื้นที่ จังหวัด ชลบุรี และ เวียงจันทร์ประเทศลาว คาดว่าจะสามารถเปิดสาขาได้ในช่วงเดือนก.ย. 2566 และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในไตรมาส4/66" นายเจมส์กล่าว

โดยในไตรมาส 2/66 กลุ่มบริษัทมีต้นทุนรวม 67.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น หากเปรียบเทียบกับสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ พบว่าลดลง จากการบริหารต้นทุนได้อย่างมรประสิทธิภาพ 

ทำให้สัดส่วนต้นทุนลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรายได้ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกำไรขั้นต้น 41.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.52  ล้านบาท หรือ 11,273% และมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้ เพิ่มขึ้น 37% จากเดิม 1% เป็น 38% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ในไตรมาส 2 ปี 2566 กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงาน 6.05 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกับของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 10.84 ล้านบาท หรือมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลง 4.79 ล้านบาท 

หากพิจารณาร่วมกับกำไรที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด จำนวน 14.40 ล้านบาท รวมถึงรายการอื่นๆ กลุ่มบริษัทฯ มีผลกำไรเบ็ดเสร็จสำหรับงวดไตรมาส 2 ปี 2566 จำนวน 9.93 ล้านบาท  

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานรวม 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 213.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.28 ล้านบาท หรือโต 82% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันหลายไตรมาส ส่งผลให้ในงวด 6 เดือนของปี 66 บริษัทสามารถสร้างรายได้สูงถึง 75% ของรายได้ทั้งปีของปี 2565 (รายได้ทั้งปี 2565 เท่ากับ 286.10 ล้านบาท)

ทำให้ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 66 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,190.48 ล้านบาท และมีสินค้าที่เป็นคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น 174.58 ล้านบาท จากการลงทุนซื้อคาร์บอนเครดิตเข้าสต็อก 

ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัท ที่ต้องการสนับสนุนองค์กรไทยในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป็นคลังคาร์บอนเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นไปตามแผนงานของกลุ่มบริษัทที่วางไว้ จึงซื้อคาร์บอนเครดิต เพื่อรองรับการขายในอนาคต