กองทุนสถาบันทั่วโลกกว่า 200 ราย ตบเท้าร่วมงาน Thailand Focus 2023

23 ส.ค. 2566 | 14:45 น.
อัพเดตล่าสุด :23 ส.ค. 2566 | 14:55 น.

Thailand Focus 2023 ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกกว่า 200 ราย รับฟังศักยภาพอุตสาหกรรมใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต ด้าน"แมนพงศ์"เผย ตลท.มุ่งให้ความสำคัญอุตสาหกรรมกลุ่ม Growth Engine พร้อมดันเข้าตลาดฯ

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน Thailand Focus 2023 ครั้งที่ 17 ภายใต้ธีม “The New Horizon” ผู้แทนภาครัฐ ตลาดเงินตลาดทุน และผู้บริหารระดับสูงภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ร่วมให้ข้อมูลตอกย้ำศักยภาพ สร้างความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยสู่บริบทใหม่แห่งการลงทุน แก่ผู้ลงทุนสถาบันกว่า 200 ราย จาก 96 สถาบันทั่วโลก  และยังมีผู้ลงทุนสถาบันหน้าใหม่เข้าร่วม สะท้อนว่าไทยมีโอกาสการลงทุนและอยู่ในความสนใจของต่างชาติ ภายในงานผู้ลงทุนสถาบันได้ร่วมรับฟังข้อมูลทิศทางธุรกิจจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน 118 บริษัท 

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการจัดงาน “Thailand Focus 2023 : The New Horizon” ระหว่าง 23 - 25 สิงหาคม 2566 ว่าในปีนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกกว่า 200 ราย จาก 96 สถาบันทั่วโลก แยกเป็นกองทุนในประเทศ 54 แห่ง และกองทุนในต่างประเทศ 42 แห่ง  ในจำนวนนี้มีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา สวีเดน ไต้หวัน และมีการประชุมในรูปแบบ Group Meeting และ One-on-One กับบริษัทจดทะเบียน 118 บริษัท สะท้อนให้เห็นว่าตลาดทุนไทยยังอยู่ในความสนใจต่อการลงทุน โดยในปีนี้ยังคงจัดงานในรูปแบบ Hybrid ซึ่งนอกจากผู้ลงทุนที่เดินทางมาร่วมงานประชุมในประเทศไทยแล้ว ยังมีที่รับฟังข้อมูลผ่าน Virtual Conference อีกด้วย 

กองทุนสถาบันทั่วโลกกว่า 200 ราย ตบเท้าร่วมงาน Thailand Focus 2023
 

“งาน Thailand Focus เป็นเวทีสำคัญที่ทำให้ผู้ลงทุนทราบถึงโอกาสการลงทุน และทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย โดยได้รับเกียรติจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย บรรยายพิเศษ หัวข้อ Laying the Foundations for a Sustainable Recovery รวมถึงผู้แทนภาครัฐ ตลาดเงินตลาดทุน และผู้บริหารระดับสูงภาคธุรกิจร่วมให้ข้อมูล โดยผู้ลงทุนสถาบันให้ความสนใจในแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศสู่โอกาสการเติบโตด้วยอุตสาหกรรมใหม่ และธุรกิจที่เป็นอนาคตของประเทศ ต่อยอดจากความเข้มแข็งของไทย เช่น การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ Soft Power ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย นอกจากนี้ ในการประชุมร่วมระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับผู้ลงทุนสถาบัน ได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ลงทุนโลกให้ความสำคัญในปัจจุบัน” นายภากรกล่าว

ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.เตรียมร่วมกับรัฐบาลดึงดูดการลงทุน โดยจะมุ่งให้ความสำคัญในอุตสาหกรรม Growth Engine ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการเรื่องเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ แต่อาจจะยังไม่มีกำไร สามารถเข้ามาในเกณฑ์ new ecocnomy ดังกล่าวได้ รวมถึงสนับสนุนกลุ่มสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอี โดยพัฒนา Live platform เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเมื่อปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวตลาดหุ้น LiveX ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากธุรกิจสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอี ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดำเนินการต่อไป พร้อมปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์และผู้ใช้บริการมากขึ้น ถัดมาคือให้ความสำคัญกับการนำดาต้ามาใช้ในการประมวลผลต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือพัฒนาศักยภาพของตลาดทุนรวมกับการกำกับดูแล ซึ่งจะทำให้เราดูแลกำกับการซื้อขายได้ดีขึ้น

ทั้งนี้หลังการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น จากนี้คงต้องพิจารณานโยบายเศรษฐกิจ หรือนโยบายต่าง ๆ ที่จะถูกบรรจุอยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะสนับสนุนตลาดทุนหรือเศรษฐกิจโดยภาพรวมอย่างไร โดยมองมีความท้าทายใน 3 เรื่องหลัก คือ 1. ภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งอัตราเงินเฟ้อ, ดอกเบี้ยนโยบาย, ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ ว่าไทยจะสามารถรับมือได้อย่างไร ซึ่งจะสอดคล้องไปกับนโยบายของรัฐบาลว่าจะเอื้อหนุนปัจจัยเหล่านี้มากแค่ไหน 2.ความเชื่อมั่น หลังจากที่เกิดความเสี่ยงมากมายในตลาดทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเกณฑ์กำกับดูแล บจ. ต่าง ๆ มากขึ้น ต้องรอดูต่อว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และ 3. การขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อไปจะเป็นอย่างไร

งาน Thailand Focus 2023: The New Horizon จัดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมด้วย บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)  บล. เกียรตินาคินภัทร และ บล. ทิสโก้ ร่วมด้วย Jefferies ระหว่าง 23-25 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ผู้สนใจดูรายละเอียดและติดตามเนื้อหาการสัมมนาได้ที่ www.set.or.th/thailandfocus