นายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ นักลงทุนเจ้าของเพจ "Bert Manit" กล่าวในงานอบรมหลักสูตร Wealth of Wisdom WoW #3 ในหัวข้อ "เปิดเคล็ดลับ วางแผนรับมือ นโยบายรัฐบาลใหม่" ว่า ภายใต้การนำของ พรรคเพื่อไทย ที่เป็นรัฐบาล ในขณะนี้ ทำให้ต่างชาติไม่กังวลเรื่องรัฐประหารที่จะเกิดขึ้น
ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ พรรคก้าวไกล จะเป็นแกนนำรัฐบาล ซึ่งต่างชาติมองว่าอาจมีความเสี่ยงในการทำรัฐประหารรวมทั้งรัฐบาลปัจจุบันถือว่ามีเสถียรภาพจากคะแนนเสียงที่แข็งแกร่ง ทำให้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาได้ 60-80 จุด
แต่การที่ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ดีดตัวสูงไปกว่านี้ เนื่องจากติดในเรื่องของดอกเบี้ยขาขึ้น และปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ขยับขึ้นได้ยาก
พร้อมมองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นไทยคงไม่ใช่ขาลงอย่างแน่นอน และในอีกระยะ 2 ปีข้างหน้า อาจมีโอกาสดีดตัวแตะระดับ 1,700 จุด
สำหรับ กลุ่มหุ้นที่ต้องระวัง และหลีกเลี่ยงไปก่อนในระยะนี้ คือ กลุ่มน้ำมัน และโรงไฟฟ้า ที่ได้รับกระทบนโยบายรัฐโดยตรง ในเรื่องการปรับลดราคาพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้าที่เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย และราคาน้ำมันดีเซล จะต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร รวมทั้งเบนซินที่ยังไม่สรุป
ส่วน กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ จะต้องอิงกับทิศทางนโยบายรัฐบาล ที่ตอนนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยว จากนโยบายฟรีวีซ่า ที่ประเดิมให้ "จีน-คาซัคสถาน" โดยเริ่มตั้งแต่ 25 ก.ย. 66
รวมทั้งน่าจะมีประเทศอื่นตามมาอีก ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มโรงแรม การท่องเที่ยว และสายการบิน ให้ปรับตัวขึ้นได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะเห็นผล
ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน คงรอเก็งเรื่องงบการเงินที่จะออกมาก่อนหุ้นกลุ่มอื่นๆ หากรายไหนไม่มีผลกระทบ การสำรองหนี้น้อย ก็สามารถเก็บเล่นได้ รวมทั้งกลุ่มค้าปลีก ที่จะได้อานิสงค์จาก โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อีกด้วย
อย่างไรก็ตามในระยะนี่แนะนำสัดส่วนการลดลงทุน โดยแบ่งเป็น เงินสด 30%, หุ้นไทย 40% และหุ้นต่างประเทศ 30% น่าจะเหมาะสม เพื่อถือเงินสดรอจังหวะการเข้าซื้อ