นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ "MASTER" เปิดเผยว่า รายได้ของ MASTER ปี 66 เติบโตจากปีก่อน โดยเป็นผลมาจากมีห้องผ่าตัดที่เพิ่มขึ้น และมีการเติบโตได้ในทุกหัตถการ ทำให้มั่นใจว่าครึ่งปีหลังทิศทางยังสดใส
จากความพร้อมในการให้บริการ และการเพิ่มจำนวนห้องผ่าตัดใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าด้านศัลยกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง
MASTER มีนโยบายชัดเจน ที่จะเติบโตร่วมไปกับบริษัทหรือธุรกิจที่เข้าไปถือหุ้น อีกทั้งการเข้าไปลงทุนต่างๆ เพื่อต้องการสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเพื่อการร่วมทุน
เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งทางด้านระบบและการจัดการ โดยมีกลยุทธ์เข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะและเป็นกิจการระดับแนวหน้าในแต่ละภูมิภาค
ร่วมทั้งจากการเข้าระดมทุนใน ตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดโอกาสให้ MASTER ได้พบปะกับเจ้าของกิจการที่มี Synergy ร่วมกันจึงถือเป็นดีลต่างๆ ที่เกิดขึ้น
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า บริษัทมีแผนย้ายเข้า SET ในอนาคตหลังกองทุนต่างประเทศแสดงความสนใจเข้าลงทุนใน MASTER เป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะกองทุนจากฮ่องกง สิงค์โปร์ ซึ่งบริษัทมีแผนเติบโตไปในต่างประเทศด้วยในระยะกลางและยาว
ขณะที่ฟรีโฟลท์ในปัจจุบันถือว่าน้อย ดังนั้นการดำเนินแบบนี้ จะเปิดทางให้กองทุนเข้ามาถือหุ้นได้ ในส่วนของการบริการกับลูกค้าต่างชาตินั้น จะเพิ่มมากขึ้นหลังประเทศเปิดฟรีวีซ่า และสัดส่วนปัจจุบันเพิ่มต่อเนื่องจาก 6% เป็น 25%
อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงที่เหลือของปี 66 นี้ ทาง MASTER มีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 รายโดยเชื่อมั่นว่าทุกดีลที่เกิดขึ้นจะสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับแนวทางการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) โดยพิจารณา 3 ปัจจัยหลักในการเข้าพิจารณาลงทุนกับพาร์ทเนอร์ ได้แก่
กิจการหรือธุรกิจที่เจ้าของเดิมบริหาร และต้องการเติบโตไปด้วยกัน กิจการหรือธุรกิจท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง และความสัมพันธ์ที่ดีในพื้นที่นั้นๆ และกิจกรรมหรือธุรกิจ การทำงานมีร่วมกัน (Synergy) กับ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ได้ในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปี 66 บริษัท ได้เข้าไปลงทุนกิจการทั้งหมด 4 แห่ง โดยแบ่งเป็นธุรกิจเสริมความงาม 3 แห่ง นำโดยคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ WIND Clinic ด้วยการเข้าลงทุน 40%
Rattinan Medical Center ถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 36% และบริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40% รวมทั้งยังเข้าลงทุนธุรกิจสื่อ คือ บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.)