"สงครามอิสราเอล-ฮามาส"กดดันสินทรัพย์เสี่ยงผันผวน -น้ำมันพุ่ง

09 ต.ค. 2566 | 06:15 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2566 | 10:36 น.

โบรกมอง "สงครามอิสราเอล-ฮามาส” กดดันสินทรัพย์ผันผวนหนัก หวั่นลุกลามสู่ระดับภูมิภาค กระทบราคาน้ำมันเสี่ยงขยับสูง เหตุประเทศตะวันออกกลางเป็นแหล่ง Supply น้ำมันดิบเกือบ 1 ใน 3 ของโลก ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันปิดเช้านี้ ดีดขึ้นสวนดัชนีตลาด

ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์กลับมาอีกครั้ง หลังกลุ่มฮามาส (ชาวปาเลสไตน์) โจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ทำให้เกิดการสู้รับกันอย่างรุนแรงในรอบหลายปี ด้วยปมจุดชนวนเรื่องศาสนา ขณะที่ปาเลสไตน์มีผู้สนับสนุนเป็นกลุ่มประเทศตะวันออกลางนำโดยอิหร่าน ส่วนอิสราเอลมีผู้สนับสนุนเป็นกลุ่มประเทศตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ

\"สงครามอิสราเอล-ฮามาส\"กดดันสินทรัพย์เสี่ยงผันผวน -น้ำมันพุ่ง

ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการลุกลามไปในระดับภูมิภาค อาจเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่เสี่ยงขยับตัวสูงขึ้น เนื่องจากประเทศตะวันออกกลางเป็นแหล่ง Supply น้ำมันดิบ เกือบ 1 ใน 3 ของโลก
 

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า ผลกระทบในช่วงสั้น คาดว่าจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง เพราะเมื่อย้อนไปดูข้อมูลในอดีตจะเห็นได้ว่า ช่วงที่เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ มักทำให้ตลาดหุ้นผันผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เหตุการณ์ยืดเยื้ออย่างเช่นสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ลากยาวนานนับปีตั้งแต่ในช่วงเดือน มี.ค. 65 จนกดดันตลาดหุ้นร่วงลงหนัก

 

\"สงครามอิสราเอล-ฮามาส\"กดดันสินทรัพย์เสี่ยงผันผวน -น้ำมันพุ่ง

 

ทั้งหากมาพิจารณาถึงผลกระทบเชิงเศรษฐกิจในบ้านเราคาดว่าจะไม่รุนแรง เนื่องจากอิสราเอลเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 40 ขณะที่ปาเลสไตน์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 215 (สัดส่วนการนำเข้า-ส่งออกน้อยมาก) นอกจากนี้ชาวอิสราเอลเดินทางเข้าไทย 8 เดือนแรกของปี 66 อยู่ที่ 1.59 แสนราย (Ytd) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.89% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด

 

\"สงครามอิสราเอล-ฮามาส\"กดดันสินทรัพย์เสี่ยงผันผวน -น้ำมันพุ่ง


 

แนะหุ้นกลุ่ม Selective

อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งระหว่างประเทศระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ คาดว่าจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นในช่วงสั้น ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำหุ้นกลุ่ม Selective อาทิ PTTEP PTTGC, GULF, BGRIM, ADVANC และ TRUE 

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่ยังตึงเครียด หนุนราคาน้ำมับดิบ Brent ดีดตัว 4% เช้านี้ที่ระดับ 87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยตลาดกังวลการสู้รบขยายวงกว้างและกระทบต่อ Supply น้ำมัน ซึ่งต้องติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด

ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP, TOP, BCP, ESSO ที่ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดีดตัว และคาดกำไรไตรมาส 3/66 จะออกมาแข็งแกร่ง

หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับขึ้นสวน SET

การเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ปิดตลาดเช้าวันนี้ ( 9 ต.ค.66 )  ปรับเพิ่มขึ้น 139.69 จุด หรือ + 0.70%  สวนดัชนีหุ้นไทย ( SET Index ) ปิดภาคเช้าลดลง 9.79 จุด หรือ - 0.68%  นำโดย 

  • PTTEP ราคาล่าสุด   166.00 บาทปรับขึ้น 4.50 บาท หรือ +2.78%
  • SPRC  ราคาล่าสุด 8.45 บาทปรับขึ้น 0.20 บาท  หรือ +2.42% 
  • BCP ราคาล่าสุด 38.75 บาท ปรับขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.97% 
  • TOP ราคาล่าสุด 47.25 บาท ปรับขึ้น 0.50 บาท  หรือ +1,07%
  • PTT ราคาล่าสุด 32.00 บาท ปรับขึ้น 0.25 บาท  หรือ +0.79%