BCP ตั้งบริษัทย่อย "ROSE" บริหารธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน "บางจาก-เอสโซ่"

10 ต.ค. 2566 | 23:29 น.

"บางจาก-เอสโซ่" ตั้งบริษัทย่อย "บจก.รีไฟเนอรี่ ออฟติไมซ์เซชั่น แอนด์ ซินเนอร์ยี่ เอนเตอร์ไพรส์ หรือ ROSE "ถือหุ้นฝ่ายละ 50:50 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อจัดทำแผนและบริหารงานธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ให้เกิดประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน

บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น ( BCP) และ บมจ.เอสโซ่  (ประเทศไทย) ( ESSO ) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าได้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ชื่อบริษัท รีไฟเนอร์รี่ ออฟติไมซ์เซชั่น แอนด์ ซินเนอร์ยี่ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ "ROSE

การจัดตั้งบริษัทฯ ดังกล่าว เพื่อจัดทำแผนและให้บริการบริหารงานธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของบมจ.บางจาก ฯ และบมจ.เอสโซ่ ฯ ให้เกิดประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สูงสุด และเกิดความเป็นธรรมโปร่งใสต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยครอบคลุมกระบวนการจัดหา แผนการผลิต แผนการขนส่ง บริหารความเสี่ยงด้านราคา บริหารการขายและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมัน
 

โครงสร้างผู้ถือหุ้น "บริษัท ROSE" มี บมจ.บางจาก และบมจ. เอสโซ่ ถือหุ้นฝ่ายละ 50% ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท (อนึ่ง บมจ.เอสโซ่ เป็นบริษัทย่อยโดยตรงที่ บมจ.บางจาก ถือหุ้นสัดส่วน 65.99% ของหุ้นทั้งหมด ) 

 

BCP ตั้งบริษัทย่อย \"ROSE\" บริหารธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน \"บางจาก-เอสโซ่\"

คณะกรรมการบริษัท ROSE ประกอบด้วย ตัวแทนของ บริษัท บางจาก และ บริษัท เอสไซ่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • 1.นายบวร วงศ์สินอุดม  ประธานกรรมการ ( กรรมการอิสระจากภายนอก )
  • 2.นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข กรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อโดยบมจ.บางจาก
  • 3.นางสาวกิตติมา วงศ์แสน กรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อโดยบริษัท บางจาก
  • 4. นายอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล กรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อโดยบริษัท เอสโซ่
  • 5.นายวรากร โกศลพิศิษฐ์กุล กรรมการที่ได้รับการเสนอชื่อโดยบริษัท เอสโซ่ 

 

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : บริษัท ROSE เป็นผู้ให้บริการสนับสนุนด้านบริหารงาน (Shared Service) สำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและให้คำแนะนำในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทบางจาก และบริษัท เอสโซ่ โดยมีขอบเขตการให้บริการหลักๆ ดังนี้

  • 1. วางแผนการกลั่น โดยใช้ Single Linear Programming (Single LP) ในการ Optimize โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท บางจาก และบริษัท เอสโซ่
  • 2. ผลจากการทำ Single LP จะใช้ในการคัดเลือกและจัดหาน้ำมันดิบ วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปจนถึงการวางแผนการขนส่งที่เกี่ยวข้อง
  • 3. การวางแผนการผลิตของแต่ละโรงกลั่น จะดำเนินการโดยผู้บริหารของแต่ละโรงกลั่น
  • 4. ผลประโยชน์ (Synergy Benefit) ที่เกิดจากการทำ Single LP จะแบ่งระหว่างบริษัทบางจาก และบริษัท เอสโซ่ อย่างยุติธรรมและโปร่งใส
  • 5.ให้คำแนะนำกับบริษัท บางจาก และบริษัท เอสโซ่ ในการบริหารความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน (Hedging) ตามสถานการณ์ตลาด