STARK เผย 4 แบงก์เจ้าหนี้ ยื่นขอฟื้นฟู"เฟ้ลปส์ ดอด์จ" ศาลนัดไต่สวน 18 ธ.ค.นี้

25 ต.ค. 2566 | 00:54 น.
อัพเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2566 | 01:18 น.

STARK เผยศาลล้มละลายฯ รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ"เฟ้ลปส์ ดอด์จ (PDITL)" หลัง 4 แบงก์เจ้าหนี้ "KBANK-SCB-UOB-ICBC" ร่วมยื่นขอฟื้นฟูฯ พร้อมเสนอตั้ง "บริษัท อีวายฯ" เป็นผู้ทำแผนฯ ศาลฯนัดไต่สวนคำร้อง 18 ธ.ค.66

นายอรรถพล วัชระไพโรจน์ กรรมการบริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เจ้าหนี้ทางการเงินจำนวน 4 รายของบริษัทเฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ “PDITL” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ STARK ได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ PDITL ต่อศาลล้มละลายกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟฟ 24/2566 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 


 

ต่อมาในวันที่ 23 ตุลาคม 2566 PDITL ได้รับสำเนาคำสั่งของศาลล้มละลายกลางฉบับลงวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ซึ่งแจ้งว่าศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการดังกล่าวและกำหนดนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่18 ธันวาคม 2566 

ในการนี้บริษัทขอเรียนชี้แจงสรุปรายละเอียดของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ PDITL ดังนี้

1.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)  ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารไอซีบีซี (ไทย)จำกัด มหาชน ในฐานะเจ้าหนี้ของ PDITL เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการร่วมกันต่อศาลล้มละลายกลาง (“ผู้ร้องขอฯ”)

2.ผู้ร้องขอได้เสนอให้บริษัทอีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด(“บริษัท อีวายฯ”)เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งหากศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของ PDITL และตั้งบริษัท อีวายฯ เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บรรดาอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินของ PDITL จะตกเป็นของผู้ทำแผนที่ได้รับการแต่งตั้งจากศาลตามกฎหมาย
 

3.การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะช่วยให้ PDITL สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีกฎหมายรองรับ อีกทั้ง PDITL ยังสามารถประกอบธุรกิจปกติต่อไปได้ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูองค์กรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในขั้นตอนการดำเนินงาน การควบคุมภายใน และพัฒนาการบริหารงานให้ดียิ่งขึ้นไป

ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของ PDITL ประการใด บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป