(18 ต.ค. 66) อาคารรัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะกรรมาธิการได้มีการประชุมพิจารณาเรื่อง หุ้น ของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "STARK" ปรากฏว่ามี ผู้เสียหายในกรณีนี้เป็นจำนวนมาก
กลุ่มผู้เสียหายจึงได้มาขอยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อม รายละเอียดให้คณะกรรมาธิการได้นําเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งคณะกรรมาธิการมีแนวทางที่ อาจจะตั้งคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อมาดำเนินการศึกษา
รวมทั้งในวันนี้ได้เชิญเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีคุณธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. มาร่วมประชุมแทน เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดี "STARK"
ด้านกลุ่มรวมพลังหุ้นกู้ STARK ซึ่งประกอบด้วยประชาชนผู้เสียหายกว่า 100 ราย ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมฟังการประชุมพร้อมทั้งยื่นหนังสือขอบคุณผู้แทนราษฎร ก.ล.ต. และเจ้าหน้าที่ที่ช่วยติดตามปัญหา
พร้อมเสนอให้คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ร่วมตั้งคณะทำงานติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรม รวมทั้งประเด็นสำคัญต้องเร่งพิจารณา อาทิการพิจารณาจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย และการประสานรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในต่างประเทศ
"คงต้องมีการลงลึกอีกทีในชั้นคณะอนุกรรมการธิการ หลังจากได้รับข้อมูลจากทาง ก.ล.ต. ว่า ยังไม่มีการจัดตั้งกองทุนในลักษณะนี้ และยังไม่มีกฎหมายรองรับ โดยอยู่ในระหว่างการศึกษาและดำเนินการ ในการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย" นายเลิศศักดิ์ กล่าว
ด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายที่ริเริ่มการฟ้อง กล่าวว่า คณะทำงานเตรียมช่วยเหลือผู้เสียหายอีกหลายพันราย ที่อาจยังไม่ทราบถึงสิทธิการฟ้องคดีแบบกลุ่ม ซึ่งถือเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ในระบบกฎหมายไทย และคณะทำงาน พร้อมกลุ่มรวมพลังหุ้นกู้ STARK ได้เตรียมจัดประชุมและแถลงข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติม
เพื่อรวมพลังจากผู้เสียหายที่ยังกระจัดกระจายให้หันมารวมพลังช่วยกันเรียกร้องความเป็นธรรมโดยอาศัยกลไกทั้งทางกฎหมาย การเมือง และภาคสังคมโดยอาจพิจารณาทั้งเอกชน ภาครัฐ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามการฟ้องคดีของ กลุ่มรวมพลังหุ้นกู้ STARK จะฟ้องเป็นคดีเดียวทั้งผู้บริหาร บริษัท และผู้ตรวจสอบบัญชี รวมทั้งจะฟ้องคดีแทนผู้เสียหายทุกคนใน ส่วนหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นที่ได้รับผลกระทบ
"ของกลุ่มผม เราปรึกษากันว่า เพื่อให้สำนวนสมบูรณ์เราจะดึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้ามาโยงกันในคดีเดียวไม่ต้องขึ้นหลายศาลหลายวัน เอามาให้อยู่ในคดีเดียว แล้วจะฟ้องแทนผู้เสียหายทุกกลุ่มทุกคน เพราะมีหุ้นกู้ 5 รุ่น จะฟ้องแทนให้ครบทุกกลุ่ม" นายวีรพัฒน์ กล่าว