นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ NAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘NAM’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 181 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 7.70 บาท ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพและพื้นฐานทางธุรกิจซึ่งมีความแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต โดยมุ่งมั่นต่อยอดเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของไทยให้มีศักยภาพการแข่งขันอย่างยั่งยืนในระดับโลก
ทั้งนี้ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้วางแผนขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน แบ่งเป็น
1.) โครงการขยายโรงงานแห่งใหม่ โดยมีแผนขยายโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตทั้งในส่วนเครื่องมือทางการแพทย์และกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
2.) โครงการลงทุนพัฒนาศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการ และพัฒนาเพื่อให้ต้นทุนสินค้าเข้าถึงโรงพยาบาลในทุกระดับและสามารถส่งต่อมาตรฐานด้านความสะอาดที่เท่าเทียบกัน โดยผ่านการวิจัย ศึกษา ค้นคว้า และเก็บข้อมูลการใช้งานผลิตภัณฑ์ในด้านต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2 - 3 ปี 2567
3.) โครงการลงทุนหรือร่วมลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ หรือมีนวัตกรรมที่ส่งเสริมการประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ได้ศึกษาโอกาสในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือทางการแพทย์ การทำความสะอาด การทำให้ปลอดเชื้อและการทำให้ปราศจากเชื้อ (Decontamination Disinfection and Sterilization) และ/หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ อย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการขยายกิจการในต่างประเทศเพื่อสร้างรากฐานรองรับการเติบโตในอนาคต และ
4.) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAM กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสนใจขยายการเติบโตในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ (Healthcare) มากขึ้น โดยก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ ได้พิจารณาอนุมัติการลงทุนในบริษัทอุปกรณ์การแพทย์ในประเทศไต้หวัน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ หรือ Obstructive Sleep Apnea (OSA) โดยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและสามารถนำองค์ความรู้มาต่อยอดได้ โดยบริษัทจะเข้าลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ มูลค่าไม่เกิน 40 ล้านบาท คาดว่าจะชำระเงินลงทุนดังกล่าวภายในสิ้นปี 2566 โดยใช้เงินส่วนหนึ่งที่ได้รับการจากเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ และ/หรือใช้กระแสเงินสดของบริษัทฯ ในการลงทุนโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ NAM มีบริษัทในกลุ่มปตท. เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพด้านการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จึงมั่นใจว่า NAM จะเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งและพร้อมสร้างการเติบโตได้ในระยะยาวนอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีฐานลูกค้าสำคัญเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุขกว่า 1,200 แห่ง ซึ่งครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 50 ปี
อีกทั้งบริษัทฯ ยังส่งเสริมการวิจัยพัฒนา ผลิต จัดหาเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับสากล อาทิ ASME, ISO13485, ISO9001, ISO14001, CE Mark และ PED รวมถึงแผนการเตรียมขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย จีน มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ และสปป.ลาว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตไปพร้อมกับพัฒนาการด้านสาธารณสุข ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก