หุ้นไทย (7 พ.ย.) อัพไซด์จำกัด รอผลประมูลบอนด์-แถลงพาวเวล

07 พ.ย. 2566 | 02:16 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ย. 2566 | 02:39 น.

4 โบรกมอง"หุ้นไทยวันนี้" 7 พ.ย. 66 อัพไซด์จำกัด ขาดปัจจัยบวกใหม่กระตุ้น คาดดัชนี SET แกว่งกรอบ 1,400-1,430 จุด รอผลประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ จำกัด คาดตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET (SET Index) วันนี้ ( 7 พ.ย.2566 ) “Sideways” ในกรอบ 1405-1430 จุด ภาพตลาดแนะรอสะสมหุ้นดีในจังหวะตลาดย่อตัว โดยกลยุทธ์วันนี้ ยังคงเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวงจรดอกเบี้ยที่เริ่มจำกัด  

ทิศทางการลงทุนในระยะสั้น ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกแม้ว่าจะได้แรงหนุนหลักจากการคาดว่าทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด มีโอกาสที่จะเริ่มจำกัดแล้ว แต่ก็อาจจะยังคงปรับขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังรอปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม ทั้งจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของคณะกรรมการเฟด ที่จะทยอยออกมาในสัปดาห์นี้

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ยังคงเน้นทยอยสะสมในจังหวะที่ตลาดย่อตัว (ไม่ต้องไล่ราคา) โดยยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการขยายตัวดี มี Valuation ที่น่าดึงดูด และราคาหุ้นยังแกว่งตัวอยู่ใน Zone ล่าง

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET (SET Index)  ชะลอตัว ลดความร้อนแรงในระยะสั้น รวมถึง bond yield สหรัฐ ที่กลับมาปรับตัวขึ้น สร้าง sentimentลบ  นอกจากนี้ นักลงทุนรอติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดในคืนวันพฤหัสฯ นี้ ทำให้กรอบบนในระยะสั้นถูกจำกัดที่แนวต้าน 1424 และ 1430 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1407 และ 1400 จุด ตามลำดับ ใช้เป็นจุดรองรับ ตามภาพรวมที่ยังมีสัญญาณที่ดี คาดหวังการฟื้นตัวได้ต่อ
 

กลยุทธ์การลงทุน แม้ SET มีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง หลังมีความหวังเฟดอาจใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ดี คาด Upside จะยังถูกจำกัด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่เพิ่มเติมที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศลงทุน อีกทั้งมีประเด็นเสี่ยงที่ต้องติดตามจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และปัจจัยในประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงติดตามการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q66 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ด้านนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ ดัชนี SET จะพักตัว กรอบ 1,410-1,430 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่อ่อนตัวลง หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond Yield) ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งกดดันต่อกระแสเงินลงทุน (Fund Flow)

นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ (ตลาดคาดที่ 3.8% จาก 3.7%) จึงแนะนำเลือกซื้อรายตัว (Selective Buy) กลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

บล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 พ.ย.66 ) แกว่งตัวในกรอบ 1,400 - 1,425 จุด รอดูทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี จากการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดว่าจะส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% หรือไม่ 
 

นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้า จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งจากคาดการณ์เบื้องต้นของตลาด อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. มีโอกาสชะลอตัวเหลือ 0.1% MoM ในเดือน ต.ค. จากระดับ +0.4% MoM ในเดือน ก.ย. โดยจากสถิติพบว่าดัชนี S&P500 จะปรับตัวขึ้นต่อหลังเฟดจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนั้นจะปรับตัวลงจากตัวเลขเศษฐกิจที่ริ่มสงสัญญาณชะลอตัวจนกระทั่งเข้าสู่ภาวะหดตัว(Recession โดยจากสถิตินับแต่ป๊ 1950 พบว่า 12 ใน 15 ครั้ง หรือมีโอกาส 80% ที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะจบด้วยการเกิด Recession

การเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (6 พ.ย.66 )ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) -2.55 จุด หรือ -0.18% ปิดที่ 1,417.21 จุด

  • หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ KCE (+4.09%), VGI (+3.70%), CBG (+3.11%), WHA (+3.00%) เป็นต้น
  • ส่วนที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ SNNP (-4.14%), BAM (-3.89%), PLANB (-3.61%), COM7 (-3.60%) เป็นต้น