JKN ดิ่งฟลอร์วูบ 30.28% หลังยื่นฟื้นฟูแก้วิกฤตสภาพคล่อง

09 พ.ย. 2566 | 03:16 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2566 | 04:01 น.

ราคาหุ้น JKN เปิดดิ่งฟลอร์ หลังยื่นฟื้นฟูกิจการ โดยเปิดซื้อขายที่ 0.76 บาท ลดลง 0.33 บาท หรือ -30.28 % รับข่าวบอร์ดไฟเขียวยื่นขอฟื้นฟูกิจการ

การเคลื่อนไหวของหุ้น บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN ) เช้านี้ ( 9 พ.ย.66 ) เปิดซื้อขายที่ 0.76 บาท ลดลง 0.33 บาท หรือลดลง 30.28 % จากราคาปิดเมื่อวานนี้ ( 8 พ.ย.) ที่  1.09 บาท 

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.17 น. ราคาอยู่ระดับ 0.77 บาท ปรับลดลง 0.32 บาท หรือ - 29.36%  มูลค่าซื้อขาย 16.31 ล้านบาท ราคาปรับสูงสุดที่ 0.79 บาท และต่ำสุดที่ 0.76 บาท จากราคาฟลอร์ที่ 0.77 บาท  

 

JKN ดิ่งฟลอร์วูบ 30.28%  หลังยื่นฟื้นฟูแก้วิกฤตสภาพคล่อง

การเคลื่อนไหวราคาดังกล่าว เป็นผลจากการที่บริษัท ฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ฯ เช้านี้ ระบุมติบอร์ด JKN  อนุมัติให้บริษัทในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และเสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โดยบริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 

ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกฎหมายรองรับ และให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม อีกทั้ง บริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ 

 

แนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น ดังนี้

1.การปรับโครงสร้างกิจการและโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับสมมติฐานทางการเงิน และสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอดจนแก้ไขปัญหาของกิจการในส่วนของเงินทุนหมุนเวียน เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท รวมถึงการปรับโครงสร้างภายในองค์กร

2. การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การผ่อนผันในเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างรายรับจากการประกอบกิจการและนำมาจัดสรรชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้อย่างครบถ้วน และบริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้

3. การได้รับเงินสนับสนุนทางด้านการเงินจากแหล่งเงินทุน โดยได้รับจากผู้ลงทุนรายใหม่ หรือสถาบันการเงินเพื่อเป็นการหมุนเวียนในกิจการของบริษัท

4. การจัดหาแนวทางการดำเนินการขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือก่อให้เกิดรายได้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย

5. การจัดเตรียมแผนงาน และกลยุทธิ์ในการบริหารสภาพคล่องของบริษัท และการปรับปรุงระบบ โครงสร้างภายในองค์กรและการพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ