ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,124.56 จุด ลดลง 79.88 จุด ลดลง -0.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,567.18 จุด ลดลง 2.60 จุด หรือ -0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,229.91 จุด เพิ่มขึ้น 44.42 จุด หรือ +0.31%
ทอม เฮนลิน นักวิเคราะห์จากบริษัท U.S. Bank Asset Management กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นที่ปรับตัวลงส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง และอาจทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2567
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 617,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.733 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.300 ล้านตำแหน่ง
ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข JOLTS นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566 และให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. 2567
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ดีดตัวขึ้น เนื่องจากการชะลอตัวของ JOLTS ได้ฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2.33% หุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 2.1% อัลฟาเบท ดีดขึ้น 1.3% หุ้นเทสลา บวก 1.3%
หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนพุ่งขึ้น หลังจากราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 42,000 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐมีแนวโน้มที่จะอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในเร็ว ๆ นี้ โดยหุ้นมาราธอน ดิจิทัล พุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นบิต ดิจิทัล ทะยานขึ้น 4.7% หุ้นไมโครสตราทีจี พุ่งขึ้น 2.5%
หุ้นซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป (CVS Health Corp) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพและเครือข่ายร้านขายยาขนาดใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2567 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 51.8 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52 โดยดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนพ.ย.
ราคาน้ำมัน WTI ปรับลบ 1% ปิดที่ 72.32 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI)ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 72.32 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 83 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 77.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ต่างปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือนหรือนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 2566 หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.33% แตะที่ระดับ 104.0498 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ราคาทองคำปิดลบ 5.90 ดอลล์ แตะ 2,036.30 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก (COMEX) ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (5 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 2,036.30 ดอลลาร์/ออนซ์