SABUY ไฟเขียว AS ซื้อหุ้นคืน 2.95% วงเงิน 120 ล้านบาท

16 ม.ค. 2567 | 09:14 น.
อัพเดตล่าสุด :16 ม.ค. 2567 | 11:27 น.

SABUY ไม่ขัด AS ซื้อหุ้นคืน ในวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท หรือไม่เกิน 2.95% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด แม้เข้าข่ายกดดัน Anti-Takeover อวดเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่มีในมือยังแกร่ง

นางสาวดวงฤทัย ศรีวะรมย์ เลขานุการ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS ครั้งที่ 2/2567 ที่ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้น (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินภายในวงเงินไม่เกิน 120,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 2.95% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และมีการกำหนด
ระยะเวลาซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 18 เมษายน 2567

SABUY หัก ตลท. ยื่น DSI สอบ Naked Short Sell สัปดาห์หน้า

ตลท. ยันตรวจสอบหุ้น SABUY ไม่พบ Naked Short ตามที่เป็นข่าว

เฉลยแล้ว! กองทุนระดับโลก GEM เข้าถือหุ้น SABUY

ซึ่งรายละเอียดปรากฎตามรายงานสารสนเทศเกี่ยวกับการแจ้งโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ลงวันที่ 15 มกราคม 2567 นั้น SABUY ในฐานะผู้ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเข้าถือหลักทรัพย์ครอบงำกิจการ และอยู่ในระหว่างให้เงื่อนไขบังคับก่อนในเรื่องการได้รับวงเงินสินเชื่อที่เพียงพอจากสถาบันการเงิน เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ AS เป็นผลสำเร็จตามที่บริษัทได้แจ้งสารสนเทศไปเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566

ขอเรียนให้ทราบว่าบริษัทให้ความยินยอมการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นคืนของ AS เนื่องจากบริษัทได้พิจารณาแล้วว่า แม้การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวของ AS จะเข้าข่ายมีผลกระทบต่อการทำคำสั่งซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ (Anti-Takeover) เนื่องจากเป็นการซื้อหุ้นคืนของกิจการ (Treasury Stock) หรือการก่อให้ หรือสนับสนุนให้บริษัทย่อย หรือบริษัทร่วม ซื้อหุ้นของกิจการตามที่ปรากฎในข้อ 3 (4) ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 14/2554 เรื่องการกระทำการหรืองดเว้นกระทำการในประการที่น่าจะมีผลต่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ แต่เนื่องจากการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นคืนของกิจการของ AS มีความเหมาะสม สมเหตุสมผล และ
เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ AS และผู้ถือหุ้นทั้งหมดของทั้ง 2 บริษัท

อย่างไรก็ตาม นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AS เผยว่า ข้อมูลจากงบการเงินงบเฉพาะกิจการสอบทาน/ตรวจสอบงวดล่าสุด ของ AS ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มีกำไรสะสมของบริษัท (ที่ยังไม่ได้จัดสรร) เท่ากับ 373 ล้านบาท หนี้สินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะเริ่มซื้อหุ้นคืน เท่ากับ 230 ล้านบาท และเมื่ออธิบายความสามารถในการชำระหนี้ของ AS ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะเริ่มซื้อหุ้นคืน

นอกจากนี้ AS ยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 จำนวน 83.36 ล้านบาท มีสินทรัพย์ทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ซึ่งสามารถแปลงเป็นเงินสด จำนวน 249.8 ล้านบาท รวมถึงคาดว่าจะได้รับเงินปันผลจากบริษัทย่อยในประเทศสิงคโปร์ จำนวน 105 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อประเมินจากกระแสเงินสดแล้ว จะเห็นได้ว่ายังคงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน

เหตุผลในการซื้อหุ้นคืนนั้น เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) และเพิ่มอัตรากำไรต่อหุ้น (Earnings per Share) ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นในอนาคตสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ส่วนผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืนที่มีต่อผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ คือ ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่ AS จะซื้อคืน ไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล และจะทำให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings per Share) สูงขึ้น

สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ AS คือ หากบริษัทสามารถดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้ครบตามจำนวนวงเงินที่กำหนดไว้ จะทำให้มีสินทรัพย์สภาพคล่อง และมูลค่าทางบัญชี ของส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเป็นจำนวนเท่ากับวงเงินดังกล่าว เมื่อสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน