สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลให้ความเห็นชอบตามกฎหมายล้มละลาย (แผนฟื้นฟูฯ) หรือรวมเรียกว่า บจฟฟ. เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่ บจฟฟ. ที่มีการเปิดเผยและ/หรือนำส่งข้อมูลได้ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง สามารถเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามแผนฟื้นฟูฯ ได้ รวมถึงช่วยให้สามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว โดยไม่มีภาระเกินควร ควบคู่ไปกับการคุ้มครองผู้ลงทุนได้อย่างเหมาะสม
ในปัจจุบันแผนฟื้นฟูฯ มีการกำหนดรูปแบบการปรับโครงสร้างหนี้หรือทุนของ บจฟฟ. ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้หลักเกณฑ์การออกและเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่รองรับกับรูปแบบการปรับโครงสร้างในปัจจุบัน และเพื่อให้การฟื้นฟูกิจการตามแผนฟื้นฟูฯ ทำได้คล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยมีมาตรการเปิดเผยข้อมูลและคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสมตามประเภทของผู้ลงทุน ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวเพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์การเสนอขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับ บจฟฟ. ที่เปิดเผยได้ตามหลักเกณฑ์ให้สามารถออกและเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ได้ ดังนี้
(1) เพิ่มช่องทางให้ บจฟฟ. ที่มีความจำเป็นต้องเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ตามแผนฟื้นฟูฯ และมีการเปิดเผยข้อมูลได้ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับยกเว้นการยื่นคำขออนุญาตก่อนการเสนอขาย แต่ยังคงมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญต่อผู้ลงทุนเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจโดยการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (แบบ filing) ก่อนการเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าว
(2) กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นแบบ filing โดยใช้แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69-1) เช่นเดียวกับกรณีเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปและเพิ่มเติมข้อมูลการฟื้นฟูกิจการ เช่น แผนฟื้นฟูฯ สรุปสาระสำคัญของแผนฟื้นฟูฯ ความเสี่ยงสำคัญที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น โดยจะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นแบบ filing ดังกล่าว ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของแบบ filing (cooling off period) เป็นเวลา 14 วัน และให้มีที่ปรึกษาทางการเงิน (financial advisor) เป็นผู้ร่วมจัดทำแบบ filing ด้วย
(3) กำหนดระยะเวลาเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ภายในระยะเวลาที่แผนฟื้นฟูฯ กำหนด
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=971 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: [email protected] จนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567