ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,769.66 จุด เพิ่มขึ้น 46.97 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,117.94 จุด ลดลง 5.75 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,019.27 จุด ลดลง 65.84 จุด หรือ -0.41%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริษัทผลิตชิปปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นซูเปอร์ ไมโคร คอมพิวเตอร์ ดิ่งลง 5% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 4.4% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (AMD) ร่วงลง 4.3% และหุ้นบรอดคอม ปรับตัวลง 1.2%
ส่วนหุ้นอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2% โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งรวมถึงอินวิเดียนั้น จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หลังจากที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับอินวิเดียนั้น รายงานระบุว่าอินวิเดียถูกนักเขียน 3 คนฟ้องร้องข้อหานำนิยายผลงานลิขสิทธิ์ของพวกเขามาใช้ฝึกแพลตฟอร์ม AI ของทางบริษัทที่ชื่อ "NeMo" โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคดีความดังกล่าวทำให้อินวิเดียกลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับเจเนอเรทีฟเอไอ (Gen AI) เช่นเดียวกันกับบริษัทอื่น ๆ เช่น โอเพนเอไอ ซึ่งเป็นผู้สร้างแพลตฟอร์ม ChatGPT และไมโครซอฟท์ ผู้เป็นหุ้นส่วนของโอเพนเอไอ
หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3% หลังจากนายพีท บูติเจิจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FAA) จะดำเนินการตรวจสอบโบอิ้งอย่างเข้มงวด หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max 9 ของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ ประสบเหตุชิ้นส่วนบริเวณผนังเครื่องบินหลุดกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันนี้ และดัชนี PPI ประจำเดือนก.พ.ในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 19-20 มี.ค.
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค.เช่นกัน และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค.