ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 37,986.40 จุด เพิ่มขึ้น 211.02 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,967.23 จุด ลดลง 43.89 จุด หรือ -0.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,282.01 จุด ลดลง 319.49 จุด หรือ -2.05%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.01% ขณะที่ S&P500 ลดลง 3.05% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 5.52%
ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 31 ต.ค. 2565
ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2565 และดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 5.46% แล้วจากระดับปิดสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 28 มี.ค.
ดัชนีดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสซึ่งปิดพุ่งขึ้น 6.23% หลังรายงานผลกำไรไตรมาสแรกสูงกว่าคาด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ถูกกดดันจากการที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 9.09% หลังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และระบุว่าบริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลจำนวนสมาชิกอีกต่อไป
ส่วนปัจจัยลบอื่น ๆ ที่ยังคงกดดันตลาดได้แก่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงเกินคาด, ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งทำให้ตลาดหมดหวังที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
นายออสเตน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ความคืบหน้าในการปรับลดเงินเฟ้อนั้นได้หยุดชะงักในปีนี้ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่เฟดรายล่าสุดที่ทำลายความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคและไฟแนนซ์ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.47% และ 1.35% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลง 3.08% และ 2.03% ตามลำดับ
หุ้นที่เกี่ยวกับชิปร่วงลง และดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟีย ร่วงลง 4.12% ในวันศุกร์ และร่วง 9.23% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
หุ้นพาราเมาท์ โกลบอล พุ่ง 13.4% หลังแหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า โซนี่ พิคเจอร์ เอนเทอร์เทนเมนต์ และอะพอลโล โกลบอล แมเนจเมนต์ กำลังหารือกันเพื่อร่วมกันเสนอซื้อกิจการของพาราเมาท์ โกลบอล