ดาวโจนส์ปิดบวก 176.59 จุด นักลงทุนคาดหวังเฟดหั่นดอกเบี้ยปีนี้

06 พ.ค. 2567 | 23:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันจันทร์ (6 พ.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 38,852.27 จุด เพิ่มขึ้น 176.59 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,180.74 จุด เพิ่มขึ้น 52.95 จุด หรือ +1.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,349.25 จุด เพิ่มขึ้น 192.92 จุด หรือ +1.19%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ค.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

ข้อมูลจากแอลเอสอีจี (LSEG) ระบุว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทั้งสิ้น 0.46% ภายในสิ้นปี 2567 โดยคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย.หรือเดือนพ.ย.

สำหรับความเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากเพียงพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ขณะที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า ในขณะที่เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น เขามองว่านโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมมาก

หุ้นส่วนใหญ่ในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุด โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 สัปดาห์

หุ้นบริษัทผลิตชิปปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นอาร์ม โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 5.2% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัท Baird ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไมครอน เทคโนโลยีขึ้นสู่ระดับ "Outperform" จากระดับ "Neutral"

ส่วนหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) และหุ้นซูเปอร์ ไมโคร คอมพิวเตอร์ พุ่งขึ้น 3.4% และ 6.1% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการฟื้นตัวขึ้นหลังจากราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัทร่วงลงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ร่วงลง 5.7% หลังเปิดเผยกำไรที่สูงเกินคาดในไตรมาส 2/2567 แต่บริษัทได้แสดงความกังวลว่าผู้บริโภคกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อสูง

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดิสนีย์ และอูเบอร์