4 หุ้น เครือ "เจ้าสัวธนินท์ "มาร์เก็ตแคปรวม 1.34 ล้านล้าน กำไร Q1/67 โตพุ่ง 72%

"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมผลดำเนินงาน 4 หุ้นกลุ่มซีพี ของ "เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์" มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปรวมกันกว่า 1,344,339 ล้านบาท ได้แก่ CPALL ,CPF ,TRUE และ CPAXT ไตรมาส 1/67 ทำรายได้รวมกัน  561,016.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,117.20 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) หรือเพิ่มราว 3.34% และมีกำไรสุทธิรวมกัน 9,183.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,833.47 ล้านบาท หรือเพิ่ม 71.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ( Q1/66) ที่มีกำไรสุทธิรวมกัน 5,350.06 ล้านบาท  

โดย บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ทำกำไรสุทธิมากสุด 6,319 ล้านบาท ส่วน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) มีอัตราการเติบโตของกำไร สูงสุด 142.27% โดยพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร 1,152 ล้านบาท ขณะที่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ขาดทุน 769 ล้านบาท หรือ -143.05% รายละเอียดดังนี้ 

 

บมจ.ซีพี ออลล์ ( CPALL)

มูลค่ามาร์เก็ตแคป : 530,003 ล้านบาท

รายได้ 241,009 ล้านบาท  

• YoY : +8.55% (Q1/66 = 222,020 ล้านบาท) 
• QoQ : +0.19% (Q4/66 =240,554 ล้านบาท) 

กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท 

• YoY: +53.28% (Q1/66 = 4,123 ล้านบาท)
• QoQ: +14.97% (Q4/66 = 5,497 ล้านบาท)

CPALL รายงานงบไตรมาส 1/67 มีกำไร 6,319.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.28% สาเหตุมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ  และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการที่บริษัทมีต้นทุนทางการเงินลดลงจากการออกหุ้นกู้เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมก่อนกำหนดเมื่อปีก่อนของ บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า เพื่อลดต้นทุนและความเสี่ยงในการบริหารค่าใช้จ่ายทางการเงิน ในไตรมาสแรกของปีนี้ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเปิดสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 185 สาขา ส่งผลให้ CPALL มีสาขาร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,730 สาขา  

บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)

มูลค่ามาร์เก็ตแคป : 189,305 ล้านบาท

รายได้ 141,102 ล้านบาท  

• %YoY : - 2.64% ( Q1/66 =144,932 ล้านบาท )
• % QoQ: - 5.14%  (Q4/66 =148,740 ล้านบาท )

กำไรสุทธิ 1,152 ล้านบาท 

• %YoY : +142.27% ( Q1/66 = - 2,725 ล้านบาท )
• % QoQ: +851.54% ( Q4/66 = 121 ล้านบาท )

CPF รายงานงบการเงินรวมไตรมาสที่ 1/67 พลิกกำไรมาเป็น 1,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ที่มีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิ 2,725 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากราคาเนื้อสัตว์ในภูมิภาคปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจสุกรในจีน และประสิทธิภาพในการผลิต ทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 1,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 265% โดยหลักเป็นผลดำเนินงานที่ดีขึ้นของบมจ. ซีพี ออลล์  

 

บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) 

มูลค่ามาร์เก็ตแคป 302,331 ล้านบาท

รายได้ 51,886 ล้านบาท 

• %YoY : - 6.89% ( Q1/66 = 55,725 ล้านบาท )
• % QoQ : -0.27% (Q4/66 = 52,028 ล้านบาท)

กำไรสุทธิ - 769 ล้านบาท 

• %YoY : -143.05% ( Q1/66 = 1,787 ล้านบาท )
• %QoQ: +117.55%  (Q4/66 = - 4,384 ล้านบาท )

ในไตรมาส 1/2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น บันทึกผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยจำนวน 1,571 ล้านบาท ส่งผลให้มีขาดทุนสุทธิหลังหักภาษี จำนวน 769 ล้านบาท แต่หากไม่รวมผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว กำไรสุทธิหลังหักภาษีจะอยู่ที่ 802 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 1,182 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) สำหรับไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 3,557 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม

บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT)

มูลค่ามาร์เก็ตแคป 322,700 ล้านบาท

รายได้ 127,020 ล้านบาท 

• %YoY : + 5.65% ( Q1/66 = 120,222 ล้านบาท)
• %QoQ: - 1.24% ( Q4/66 = 128,613 ล้านบาท )

กำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท 

• %YoY : +14.58% ( Q1/66 = 2,165 ล้านบาท )
• %QoQ:  - 24.39%  (Q4/66 = 3,282 ล้านบาท )

CPAXT รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 67 ด้วยยอดรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% และมีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY ผลมาจากการเติบโตของยอดขายภายในสาขาเดิม โดยเฉพาะจากการขายออนไลน์และการขายนอกร้านพร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (Omni Channel) และการขยายสาขาใหม่ที่เป็นไปตามแผนงาน ประกอบกับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก รวมทั้งต้นทุนทางการเงินที่ลดลง