ส่องผลดำเนินงาน 4 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่มกัลฟ์ ฯ (GULF ) ของมหาเศรษฐีหุ้นไทย สารัชถ์ รัตนาวะดี ซึ่งมีมูลค่ากิจการรวมกัน 1,345,918 ล้านล้านบาท ได้แก่ GULF, INTUCH ,ADVANC และ THCOM ไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวมกัน 86,436.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,772.56 ล้านบาท หรือเติบโต 15.77% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (Q1/66) ที่มีรายได้รวม 74,664.42 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมกัน 15,498.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,112.13 ล้านบาท หรือเติบโต 15.78% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (Q1/66) ที่มีกำไรสุทธิรวม 13,386.67 ล้านบาท
ฐานเศรษฐกิจ พาสำรวจ 4 บริษัทในกลุ่ม GULF เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทไหนเติบโตหรือมีความสนใจอย่างใดบ้าง พร้อมมุมมองนักวิเคราะห์ ดังนี้
1.บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)
ผู้ถือหุ้นใหญ่ : สารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้น 35.81%
ตำแหน่งนายสารัชถ์ : ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, รองประธานกรรมการ
มาร์เก็ตแคปบริษัท 492,792 ล้านบาท
รายได้ Q1/67 : 32,279.92 ล้านบาท
กำไรสุทธิ Q1/67 : 3,498.53 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า GULF รายงานกำไรสุทธิ 1Q67ที่ 3,499 ล้านบาท (-27% QoQ, -9% YoY) หากหักรายการพิเศษออก กำไรปกติอยู่ที่ 4,152ล้านบาท (+19% QoQ, +13% YoY) สูงกว่าที่เราคาดไว้ราว 6% โดยมีสาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ที่สูงกว่าคาดราว 10% และค่าใช้จ่าย SG&A ที่น้อยกว่าคาดราว 17% รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าคาดราว5%
2Q67 ลุ้น New High : เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 2Q67 ที่ 4,200-4,500 ล้านบาท เติบโตทั้ง QoQ และ YoY รวมทั้งมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสหลังได้แรงหนุนจาก 1) สภาพอากาศที่ร้อนในเดือน เม.ย. จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ Dispatch Factor ของโรงไฟฟ้า IPP เพิ่มสูงขึ้น 2) การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าหินกองหน่วยที่ 1(377.3MWe) และการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 3 (662.5MW)แบบเต็มไตรมาส 3) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวลงทั้ง QoQ และ YoY หลังแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณสามารถกลับมาผลิตก๊าซธรรมชาติได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง และ 4) ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการแข่งขันที่ลดลงในตลาดมือถือและตลาด
คงแนะนำ"ซื้อ" โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 52.75 บาท
2. บมจ.อินทัชโฮลดิ้งส์ (INTUCH)
ผู้ถือหุ้นใหญ่ : GULF ถือหุ้น 47.37%
ตำแหน่งนายสารัชถ์ : ไม่มี
มาร์เก็ตแคปบริษัท 220,460 ล้านบาท
รายได้ Q1/67 : 9.50 ล้านบาท
กำไรสุทธิ Q1/67 :3,261.59 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุ INTUCH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส1/67ที่ 3.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY แต่ลดลง 24% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 3.45 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 29%YoY และ 29% QoQ กาไรหลักสูงกว่าที่เราคาด 20% (ADVANC รายงานกาไรหลักสูงกว่าที่เราคาด)และสูงกว่าตลาดคาด 16%
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ กำไรหลักของ ADVANC เพิ่มขึ้น YoYและ QoQ หนุนโดยรายได้บริการหลักที่เพิ่มขึ้นทั้งจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจบรอดแบนด์
แนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 2/67 คาดจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนโดยการเติบโตของกำไรจาก ADVANC (รายได้บริการหลักที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง) พร้อมกันนี้ได้ปรับประมาณการกำไรหลัก INTUCH ปี 2567 มาอยู่ที่ 1.23 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6% YoY)
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายที่ 102 บาท โดยหุ้น INTUCH อิงจากกำไรที่แข็งแกร่งของ ADVANC
3.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)
ผู้ถือหุ้นใหญ่ : INTUCH ถือ 40.44%
ตำแหน่งนายสารัชถ์ : รองประธานคณะกรรมการ
มาร์เก็ตแคป 618,634 ล้านบาท
รายได้ Q1/67 53,465.06 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 8,451.05 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย ) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ กำไรหลัก ADVANC 1Q67 เติบโตแข็งแกร่ง สูงกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ 20% ค่าใช้จ่าย SG&A ไตรมาส1/67(+6%YoY, -20% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 10% เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่ดีและการตั้งค่าเผื่อหนี้เสียที่ลดลง กำไรจากการขายโทรศัพท์มือถือ 497 ล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 200 ล้านบาท จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล(Easy E-Receipt) ทำให้ ADVANC ไม่จำเป็นต้องลดราคาค่าเครื่องมากนัก ขณะที่รายได้จากบริการหลัก1Q67 เติบโต+18% YoY,+6% QoQ สูงกว่าคาดของเรา1% เนื่องจากรายได้จากลูกค้าองค์กรที่แข็งแกร่ง (+27% YoY, +1% QoQ
บล.เมย์แบงก์ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลัก ADVANC ในปี 67-69 ขึ้น 2-3% เนื่องจากมีการเพิ่มประมาณการรายได้ 1% (รายได้มือถือและลูกค้าองค์กรที่สูงขึ้น) และลด SG&Aลง2% ซึ่งประมาณการการเติบโต EBITDAใหม่ของเรา สำหรับปี 67 ที่ 17% สูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 14-16% โดยเชื่อว่าADVANC จะปรับเพิ่มเป้าหมายEBITDA ในไตรมาส3/67 เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลให้ GDP เติบโตแข็งแกร่งขึ้นใน 2H67
ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 257 บาท จากเดิมที่ 251 บาท
4.บมจ.ไทยคม (THCOM )
ผู้ถือหุ้นใหญ่ :กัลฟ์ เวนเชอร์ส (บ.ย่อยGULF) ถือ 41.14%
ตำแหน่งนายสารัชถ์ : รองประธานกรรมการ
มาร์เก็ตแคปบริษัท 14,030 ล้านบาท
รายได้ Q1/67 : 682.50 ล้านบาท
กำไรสุทธิ Q1/67 : 287.63 ล้านบาท
บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมองเชิงบวก THCOM ต่อแนวโน้มผลประกอบการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ไฮไลท์ : บริษัทอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตเพื่อให้บริการดาวเทียม Thaicom 8 ในประเทศอินเดีย โดยคาดว่าจะได้ใบอนุญาตในช่วง 2Q67-3Q67 หลังจากได้รับใบอนุญาต ยอดขายของดาวเทียม Thaicom 8 น่าจะสามารถ ramp up เพิ่มทั้ง 12 transponder ได้ภายใน 3-4 เดือน เนื่องจากได้มีการเซ็น MOU กับลูกค้าใหม่ไว้แล้ว
รายได้จากค่าบริการของดาวเทียม Thaicom 4 ยังมีแนวโน้มค่อยๆ ปรับลดลง ทั้งนี้หากการขอใบอนุญาตการเข้าให้บริการในประเทศอินเดียเป็นไปตามแผนน่าจะยังเห็นรายได้รวมปรับตัวขึ้นYoY ได้ในปี 2567
SG&A น่าจะยังอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2567 เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายด้านที่ปรึกษาค่อนข้ํางเยอะ
การปรับเพิ่มค่าบริการโทรศัพท์และอินเตอร์เนตบ้านในประเทศลาวจะเริ่มส่งผลเต็มไตรมาสใน2Q67 ซึ่งน่าจะมีผลกระทบเหนือการปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่งผลให้ผลประกอบการของ LTC ปรับตัวดีขึ้น
เราคาดว่า ผลประกอบกําร 2Q67 จะปรับตัวลง YoY แต่เพิ่มขึ้นQoQ ยังคงคําแนะนํา"ซื้อเก็งกําไร"ต่อTHCOM ด้วยราคาเป้าหมาย 16.70 บาท