สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่าฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐตกลงอย่างรุนแรงในวันนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขายทิ้งในตลาดโลกที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยในสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ดิ่งลง 12% ซึ่งนับเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ "Black Monday" ในปี 1987 ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้น Wall Street
ความกลัวเกี่ยวกับภาวะถดถอยในสหรัฐฯ เป็นสาเหตุหลักของการพังทลายของตลาดโลก หลังจากรายงานการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมที่น่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนยังคงกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด อาจจะล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยธนาคารกลางเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้สูงที่สุดในรอบสองทศวรรษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ยังมีการเทขายหุ้นที่เคยร้อนแรงอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ้นเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในกลุ่มที่แย่ที่สุดในการซื้อขายช่วงเช้าวันจันทร์
ขณะที่หุ้นญี่ปุ่นเข้าสู่ตลาดหมี โดยดัชนี Nikkei ปิดที่ 31,458.42 นับเป็นวันที่แย่ที่สุดสำหรับดัชนีนี้นับตั้งแต่เหตุการณ์ "Black Monday" ในปี 1987 ที่เกิดขึ้นกับ Wall Street
เช่นเดียวกับ ตลาดโลกอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นกัน
"มันเจ็บปวด" Victoria Greene หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนที่ G Squared Private Wealth กล่าวในรายการ "Worldwide Exchange" ของ CNBC
"ฉันคิดว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกรับรู้ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทั้งการลดหุ้น Apple ของ Berkshire...การขายทิ้งในญี่ปุ่น...การพุ่งขึ้นของเงินเยนและการสิ้นสุดของ carry trade...มีข่าวร้ายมากมายที่ถูกสะท้อนเข้าในราคา"
"นี่เป็นการปรับฐาน, การแก้ไข" เธอเสริม "เราคงจะถึงจุด oversold ในไม่ช้านี้...ที่ระดับนี้ค่อนข้างเร็ว"