ค่าเงินบาท/ดอลลาร์ ในวันนี้ 27 ส.ค. 2567 ณ เวลา 12.11 น. อยู่ที่ระดับ 34.020 บาท เพิ่มขึ้น 0.017 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 0.05% ในช่วงระหว่างวันค่าเงินบาทปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดอยู่ที่ระดับ 34.097 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 33.980 บาท/ดอลลาร์ จากเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ส.ค. 2567 ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.980 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าค่าเงินบาทกับตลาดหุ้นไทยนั้นมีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากหากเงินบาทแข็งค่า นักลงทุนจากทั่วโลกก็จะหันมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เมื่อกระแสเงินลงทุนกลับมายังตลาดหุ้นไทยก็จะไปหนุนให้ดัชนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะทำให้นักลงทุนต่างชาติได้รับไปแบบกำไร 2 ต่อ คือ กำไรจากการแข็งค่าของเงินบาท และกำไรจากการปรับขึ้นของราคาหุ้น
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในระยะสั้นมองว่าระหว่างทางอาจมีการดีดตัวขึ้นมาบ้างที่ระดับราว 34.50 บาท/ดอลลาร์ แต่คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2567 นี้ มีโอกาสที่จะเห็นค่าเงินบาทย่อตัวลงมาแตะที่ระดับแนวรับ 32.00 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดแนวรับที่มีนัยสำคัญ
หลายคนอาจมีความกังวลใจมองว่าการแข็งค่าของเงินบาทนั้น จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหรือหุ้นที่มีเกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ส่วนตัวมองว่าอาจไม่ได้กระทบหนักหนาขนาดนั้น และเชื่อว่าแต่ละบริษัทจะมีวิธีการบริหารจัดการกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
สำหรับหุ้นที่มีความน่าสนใจและคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่า ได้แก่ COCOCO เนื่องจากแนวโน้มการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการขยายตลาด และผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
และหุ้นอีกตัวหนึ่งที่มองว่ามีความน่าสนใจ ได้แก่ CPF เนื่องจากราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน และดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน รวมถึงความต้องการบริโภคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นซึ่งได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 25 ส.ค. 2567 ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.91 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2567 ที่อยู่ที่ 36.98 บาท/ดอลลาร์ และเป็นการแข็งค่ามากสุดในรอบ 13 เดือน
เป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่า เนื่องจากตลาดมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หรือมากกว่าที่คาดการ์ไว้ โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน ก.ย. 2567 นี
อีกทั้งยังมีปัจจัยเฉพาะของไทย เช่น จากการที่ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกทองคำค่อนข้างมาก และความชัดเจนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้ภาพรวมดูมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทมีการเคลื่อนไหวใกล้เคียงภูมิภาค
ทั้งนี้ ทางฝ่ายมองว่าหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเงินบาทกลับมาแข็งค่าและมีโอกาส outperform SET ได้มากสุด ประกอบด้วย
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ “ค่าเงินบาทแข็งค่า” ยังส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมและหุ้นอื่นๆ อีก อาทิ
ในขณะเดียวกันทางฝ่าบคาดว่าหุ้นที่จะเสียประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่า และมีโอกาส underperform SET ได้แก่ AAI แนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมาย 9.50 บาท, ITC แนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมาย 30.00 บาท, MEGA แนะนำถือ ประเมินราคาเป้าหมาย 44.00 บาท และ TU แนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมาย 18.50 บาท