บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ได้แจ้งมติคณะกรรมการบริษัทในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 สำหรับหุ้นกู้ 3 รุ่น ได้แก่ SABUY258A, SABUY254A และ SABUY24DA โดยกำหนดจัดประชุมในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพื่อขอมติผู้ถือหุ้นกู้ในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งสำคัญ
การประชุมครั้งนี้มีประเด็นหลักคือการขอขยายระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้ 3 รุ่นออกไปอีก 3 ปีจากวันครบกำหนดเดิม พร้อมทั้งขอปรับเปลี่ยนเงื่อนไขสำคัญหลายประการ ได้แก่ การขอยกเลิกเงื่อนไขการดำรงอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Debt to Equity Ratio) และการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 2-5 ต่อปี ตามแต่ละช่วงเวลา รวมถึงขอเปลี่ยนงวดการจ่ายดอกเบี้ยจากทุก 3 เดือน เป็นทุก 6 เดือน
สำหรับหุ้นกู้ SABUY258A มีวาระพิเศษเพิ่มเติมคือการขอผ่อนผันให้การชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับงวดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดชำระหนี้ตามข้อกำหนดสิทธิ
การขอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก โดยล่าสุดบริษัทได้รายงานผลประกอบการขาดทุนมูลค่าสูงถึง 5.74 พันล้านบาท และมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารโดยแต่งตั้งนายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ เป็นซีอีโอคนใหม่ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้กับสถาบันการเงินมูลค่า 118 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
ก.ล.ต.เตือนผู้ถือหุ้นกู้ศึกษาข้อมูล
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกมาเตือนผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่นให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและใช้สิทธิในการประชุมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง โดย ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ต้องวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ และผลกระทบที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับจากการมีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติในแต่ละทางเลือกอย่างชัดเจน พร้อมเหตุผลประกอบและความเห็นของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
สำหรับหุ้นกู้ SABUY263A ซึ่งเป็น "หุ้นกู้มีประกันของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2566 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน" บริษัทแจ้งว่าจะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้แยกต่างหากในภายหลัง
วาระการประชุมที่สำคัญทั้งหมดประกอบด้วย:
1. การขอผ่อนผันการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินและการขยายระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้
2. การขอยกเลิกเงื่อนไขการดำรงอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
3. การขอผ่อนผันให้สามารถเจรจาหรือทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ถึง 30 ธันวาคม 2568
4. การขอแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้โดยขยายเวลาออกไป 3 ปี
5. การขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเปลี่ยนงวดการจ่ายดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ก.ล.ต. แนะนำให้ผู้ถือหุ้นกู้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และใช้โอกาสในการประชุมเพื่อซักถามข้อมูลจากผู้ออกหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอต่อการตัดสินใจลงมติ เนื่องจากการตัดสินใจในครั้งนี้จะมีผลกระทบสำคัญต่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ในระยะยาว
SABUY เผยผลประกอบการ 9 เดือน ขาดทุนพุ่ง 6 พันล้าน เตรียมเปลี่ยนชื่อ-ผู้บริหาร
9เดือน SABUY ขาดทุนกว่า 6 พันล้าน
ทั้งนี้ SABUY เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวมสูงถึง 6.06 พันล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 5.74 พันล้านบาท
สาเหตุสำคัญของการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2567 มาจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการเสียอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อย รวมถึงผลขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BZB ให้กับบุคคลภายนอกกลุ่มบริษัท ซึ่งทำให้ต้องรับรู้ผลขาดทุนจำนวน 575.4 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยจะเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม "บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)" เป็น "บริษัท ดับบลิว เอส โอ แอล จำกัด (มหาชน)" พร้อมเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์จาก SABUY เป็น WSOL รวมถึงเปลี่ยนตราประทับบริษัทให้สอดคล้องกับชื่อใหม่
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้รับทราบการลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนายวิรัช มรกตกาล และมีมติแต่งตั้งนายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่แทน การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับโครงสร้างและทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย