Liberator ชี้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ลุ้นฟื้นตัว กรอบ 1,370-1,400 จุด
บล.ลิเบอเรเตอร์ ส่องวันนี้ 6 ม.ค.68 SET Index ลุ้นฟื้นตัวในกรอบ 1,370-1,400 จุด จากสัญญาณเศรษฐกิจ US ที่ยังแข็งแกร่งคาดกระตุ้นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ กลยุทธ์ยังเน้นจังหวะย่อสะสมหุ้นที่คาดกำไรไตรมาส 4/67 เด่น วันนี้แนะ MASTER
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ 6 มกราคม 2568 ลุ้นฟื้นตัวในกรอบ 1,370-1,400 จุด จากสัญญาณเศรษฐกิจ US ที่ยังแข็งแกร่งคาดกระตุ้นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ โดยสหรัฐฯรายงานดัชนี ISM ภาคการผลิต ประจำเดือนธันวาคมที่ 49.3 จุด เร่งขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ที่ 48.4 จุด
สูงกว่าตลาดคาดที่ 48.2 จุด ถือเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน แม้จะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 จุด แต่มีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น โดยแรงหนุนหลักมาจากคำสั่งซื้อใหม่ที่กลับมาขยายตัวทำจุดสูงสุดของปี 67 ตอกย้ำทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังขยายตัวได้ดี เพิ่มแรงเก็งกลับในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิด +0.8%
คาดจะช่วยผลักดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้มีแนวโน้มเชิงบวกมากยิ่งขึ้น ขณะที่ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจากจีน ผสานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญทั่วโลกซึ่งอาจแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- เงินเฟ้อ : ดัชนี CPI ธ.ค. ของไทย โดยจะรายงานวันนี้คาดขยายตัวที่ 1.4% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน จาก 0.95% ในเดือน พ.ย. ส่วนยูโรโซน (7 ม.ค.) คาดเติบโตที่ 2.4% จาก 2.2% และจีน (9 ม.ค.) คาดเพิ่มขึ้นที่ 0.1% ลดลงจาก 0.2%
- ภาคบริการ : ISM สหรัฐฯ ภาคบริการ คาด 53 จาก 52 จุด ส่วน Caixin China PMI คาดที่ 51.4 และ PMI ยูโรโซน ภาคบริการ คาดที่ 49.5 จุด
- ภาคแรงงาน : การจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ในวันศุกร์ คาดที่ 1.53 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานคาดทรงตัวที่ 4.2%
ปัจจัยที่ต้องจับตา
6 ม.ค.68
- ดัชนี CPI ของไทย ที่คาดขยายตัว 1.4% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน
- PMI ภาคบริการของ สหรัฐฯ และ ยูโรโซน
- ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน สหรัฐฯ
- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน สหรัฐฯ
- Caixin China PMI ภาคบริการ
7 ม.ค.68
- JOLTS Job Openings
- US ISM ภาคบริการ
- ดัชนี CPI ยูโรโซน
หุ้นเด่นแนะนำ
MASTER ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 61.50 บาท โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 200 ล้านบาท เร่งตัวแรง 83% จากไตรมาสก่อน และสูงขึ้น 22% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสจากการรับรู้รายได้ที่เลื่อนจากไตรมาส 3/67 ราว 20-30 ล้านบาท ผสานอัตราการใช้ห้องผ่าตัดใหญ่ที่เร่งสูง 73.9% จาก 63.7% ในไตรมาสก่อน
ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายและบริหารที่คาดลดลงจากไตรมาสก่อน ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมราว 15 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่จะทำสถิติใหม่ที่ 31.7% เพิ่มแรงหนุนเชิงบวก