"ท็อป” จิรายุส เชื่อ“บล็อกเชน-ดิจิทัล แอคเซส-ดิจิทัลอีโคโนมี”คืออนาคต

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด)  กล่าวในงานสัมมนา Thailand Economic Outlook 2023   หัวข้อ Digital Business : Next Opportunity  ว่าตัวชี้วัดสำคัญหลายตัวที่ชี้ให้เห็นเทรนด์โลกอนาคตว่ากำลังเดินไปสู่เทคโนโลยี บล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ ดิจิทัล แอคเซส เศรษฐกิจดิจิทัล   กองทุนใหญ่ของภูมิภาค เชื่อว่าบล็อกเชน  คือโลกแห่งอนาคตใน 10 ปีข้างหน้า  โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มนักวิเคราะห์ เทคโนโลยีบล็อกเชนมากสุด  และเป็นสิ่งที่มุ่งการลงทุนมากสุด  

ส่วนการลงทุนอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นยุคทองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   พื้นที่ของภูมิภาคนี้จะไม่ถูกมองข้ามอีกต่อไป   เพราะเป็นภูมิภาคที่มีความมั่นคง และสงบ   ไม่มีสงคราม  ไม่มีปัญหาสังคมสูงอายุ  ขณะที่กองทุนใหญ่ๆของโลก มุ่งให้ความสำคัญกับบล็อกเชน เป็นอันดับแรก  

“อีก 10 ปีข้างหน้าจะถึงยุคทองของภูมิภาคอาเซียน  ต้องเตรียมพร้อมใน 3 ด้าน  คือ  1.ความยั่งยืน  2. ซัพพลายเชน  หรือแวลูเชน  และ 3 .ดิจิทัล อีโคโนมี   ด้วยภาวะสงคราม   สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ทำให้ซัพพลายเชนของโลกเปลี่ยน  โดยผู้นำอาเซียน มีการหารือกันว่าต้องผลักดันให้อาเซียนเป็นฮับใหม่ของซัพพลายเชนของโลก   เพราะอาเซียนเป็นพื้นที่ไม่มีสงคราม มีประชากรอายุน้อย มีทรัพยากร  ซึ่งอาเซียนต้องจับมือร่วมกัน  พร้อมทั้งสร้างกรีนซัพพลายเชนขึ้นมา  เพราะกฎใหม่ของโลกมุ่งไปสู่กรีน   เติบโตแบบคุณภาพ  เติบโตแบบยั่งยืน  ไม่ใช่เติบโตแบบปริมาณ”

สิ่งที่ผู้นำทั่วโลกพูดถึง  คือ   Globalization  แต่ทำอย่างไรให้ทุกคนได้ประโยชน์  Globalization  ทั้งการเท่าเทียมการเข้าถึงดิจิทัล  Digital Inclusion ซึ่งจะต้องเติบโตไปด้วยกันกับ Financial Inclusion หรือ ‘ความเท่าเทียมทางการเงิน, Education Inclusion หรือ ‘ความเท่าเทียมทางการศึกษา’ และ Healthcare Inclusion หรือ ‘ความเท่าเทียมทางด้านเฮลธ์แคร์’ ซึ่งเป็น Growth Area หรือ ‘พื้นที่การเติบโต’ ในอนาคต’

นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงเรื่องของทุนมนุษย์ (Human Capital) ด้วยว่าในอนาคตเราต้อง Reskill-Upskill คือการเพิ่มทักษะและสร้างทักษะใหม่ๆที่จำเป็นต่อการทำงานให้กับคนจำนวนมาก เพราะฉะนั้นพื้นฐานอย่างแรกที่ต้องมีให้กับคนคือเรื่องของการเชื่อมต่อ หรือการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตควรจะเป็นบริการสาธารณะ (Public Goods) ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อเอาความรู้มาพัฒนาตัวเองผ่านการเรียนออนไลน์ เพื่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การทำงานจะเปลี่ยนไป ทุกคนทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลก ดังนั้นการทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต จะทำให้เกิดการสร้างโอกาสใหม่ๆในการเข้าถึงงานดีๆได้