6 เทรนด์การลงทุนแบบ VENTURE CAPITAL ปี 66

25 ต.ค. 2565 | 10:53 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2565 | 18:11 น.

กรุงศรี ฟินโนเวต เปิดมุมมองเทรนด์การลงทุนในปี 2566 กับแนวคิดการลงทุนแบบ VC บริษัทเทคที่กำลังมาอย่างรวดเร็ว และนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ 6 VENTURE CAPITAL

นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด   กล่าวว่าตัวเลขการลงทุนทั่วโลก Fund flow ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับหนึ่งกว่า 52,000 พันล้านดอลลาร์ เอเชียยังเป็นอันดับ 2 ประมาณ 27 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทเทคที่กำลังมาอย่างรวดเร็ว และนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างยิ่ง แบ่งออกเป็น 6 VENTURE CAPITAL คือ

6 เทรนด์การลงทุนแบบ VENTURE CAPITAL ปี 66

1. Decentralized finance ซึ่งตัดคนกลางออก และนำ Blockchain มาใช้ ทำให้ผู้กู้กับผู้ให้กู้ มาเจอกันเองในตลาด ตลาดเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มี User ที่เป็นลูกค้ามาใช้จากทั่วโลกหลากหลายล้านคนและความเชื่อมั่นเรื่องของเทคโนโลยี Blockchain ทำให้การลงทุนในเทคโนโลยีนี้ต่อไม่หยุด และตอนนี้ทุกๆ ธนาคาร ทุกๆ อุตสาหกรรมกำลังมุ่งสู่ Blockchain

 

2. Metaverse นักลงทุนสนใจอย่างยิ่ง ตลาด Metaverse ทั่วโลกจะขึ้นไปถึง 750 พันล้านดอลลาห์ เรามั่นใจได้ว่า Metaverse มาถูกทางแล้ว เพียงแต่ว่า Verse ไหนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ และ Verse ไหนที่สร้างทราฟฟิคให้ธุรกิจได้ เพราะ Verse เองก็ไม่ต่างกับ E-commerce หรือเว็บไซต์ ถ้ามีคนเดินเข้าไปดูเยอะทุกคนก็อยากจะไปเปิดธุรกิจ ยกตัวอย่าง เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้างไหนมีคนเดินเยอะ หลายๆ แบรนด์ก็อยากไปเปิดร้าน เพราะมีความคึกคัก ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า VC จะไปลงทุนในตัวไหน

 

3. Cyber security เป็นเรื่องที่มาแรงอยู่ตลอด และยิ่งเพิ่มความสำคัญมากขึ้น เพราะ Cyber Security ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่การป้องกัน Software และ Hardware แต่เป็นการป้องกันไม่ให้โดนแฮก โดยเฉพาะการแฮกสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะเป็นการแฮก วอเล็ท ที่ไม่ได้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา จึงทำให้มีบริษัที่ทำ Cyber security ที่อยู่บนโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้นมากมายเพื่อป้องกันการแฮกตรงนี้

 

4. Sustainability เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องเริ่มทำ หากบริษัทไหนไมได้ทำ ESG อาจไม่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เพราะเราเชิ่อว่าบริษัทไหนก็ตามที่ใส่ใจในเรื่องของ Sustainability ใส่ใจในเรื่อง ESG หรือ Climate Change ทั้งหลายเค้าจะเป็นบริษัทที่ดี จะใช้ของที่ดีให้กับลุกค้า ถ้าใช้ของที่ดี ลูกค้าก็จะซื้อของจากเขา และตั้งแต่ปีนี้ไปถึงอีกสามสี่ปีจะเห็นความรุนแรงของการลงทุนในโลกของ ESG และ Sustainability มากยิ่งขึ้น

 

5. Buy now Pay Later (BNPL) โฟกัสคนที่ไม่มีเครดิต หรือเป็นลูกค้าบัตรเดบิต ซื้อของและผ่อนชำระได้ โดยเฉพาะในต่างประเทศโตขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าปีหน้าเป็นต้นไปจะเห็นการแข่งขัน Buy now Pay later ในต่างประเทศและในประเทศสู้กันอย่างรุนแรงมากขึ้น

 

และ 6. Ultrafast Delivery เป็นการส่งของที่เร็วกว่าเดิมไปอีก สั่งปุ๊บได้ปั๊บ จากเดิมต้องได้ของภายในวันก่อนเหลือสามชั่วโมง และตอนนี้หลายๆ แบรนด์ทำงานร่วมกับ Ultrafast Start-up เพื่อทำให้สินค้าตัวเองส่งเร็วขึ้น อาจจะซื้อของจากห้างแล้วส่งทันทีภายในสิบห้านาที