ซึ่งฟีเจอร์กลไกพิสูจน์เงินทุนสำรอง (Proof of Reserves) ถือเป็นเวอร์ชันแรก โดยในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้สามารถดำเนินการตรวจสอบเพื่อรับรองยอดจัดเก็บเหรียญอื่นๆ ทั้ง ETH, USDT, USDC, BUSD รวมถึง BNB นอกจากนี้ ทาง Binance ยังเดินหน้าเตรียมความพร้อมให้กับผู้ตรวจสอบอิสระภายนอกในการทำงานร่วมกับบริษัทฯ เพื่อช่วยยืนยันความถูกต้องของข้อมูลบนโครงสร้าง Merkle Tree อีกด้วย
นายฉางเผิง จ้าว หรือ CZ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Binance (ไบแนนซ์) กล่าวว่า “เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น ทำให้ชุมชนการลงทุนต้องการบริการและการดูแลที่มากขึ้นจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ซึ่งมากกว่าความต้องการจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเสียอีก ด้วยเหตุนี้เราจึงมีความยินดีที่จะนำเสนอฟีเจอร์ล่าสุดเพื่อให้ทุกคนสามารถตรวจสอบเงินทุนของตนเองได้ และเนื่องจากชุมชนผู้ใช้งานของ Binance กำลังจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าแพลตฟอร์มที่อยู่ในลำดับถัดไปแบบเท่าตัว ทำให้การปฏิบัติงานของเราถือเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ และจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ในการพัฒนาข้อมูลเพื่อบริหารสินทรัพย์ที่อยู่ในความดูแลของเรา โดยเราจะเร่งทำการอัปเดตข้อมูลครั้งต่อไปให้เร็วที่สุดเพื่อตอบสนองความคาดหวังของชุมชนได้อย่างทันท่วงที”
กลไกพิสูจน์เงินทุนสำรอง (Proof of Reserves)
เว็บไซต์ (site) Proof of Reserves ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า Binance ในฐานะผู้ดูแล (custodian) มีการถือสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าเต็มจํานวนพร้อมด้วยเงินทุนสํารอง หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือ เมื่อผู้ใช้งานฝาก 1 Bitcoin เงินทุนสำรองจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 Bitcoin ตามไปด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าเงินทุนของลูกค้าได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปจะสามารถตรวจสอบเว็บไซต์และดูหลักฐานการสํารองเงินทุนของ Binance ได้อย่างสะดวก โดยข้อมูลจะแสดงให้เห็นถึงอัตราส่วนเงินสำรองของ Binance ควบคู่ไปกับจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า
การตรวจสอบสินทรัพย์ดิจิทัลใน 2 วิธี
เว็บไซต์ดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมของตนได้อย่างง่ายดายใน 2 วิธี โดยวิธีแรก ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองได้ผ่านทางเว็บไซต์ Binance เพื่อดูข้อมูล BTC ของพวกเขาบนฐานข้อมูล Merkle Tree ของ Binance ได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน
เริ่มต้นด้วยการเข้าสู่เว็บไซต์ Binance จากนั้นคลิกที่ “กระเป๋าเงิน” (wallet) ตามด้วย “การตรวจสอบ” (audit) หลังจากนั้น ระบบจะสร้างรหัสบันทึกเฉพาะที่ยืนยันว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้ได้รับการคุ้มครอง รวมถึงการยืนยันยอดคงเหลือของสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว ณ เวลาที่ทําการตรวจสอบ
สําหรับผู้ใช้งานที่ต้องการตรวจสอบสินทรัพย์ดิจิทัลที่ละเอียดไปอีกขั้น สามารถทำได้ด้วยการคัดลอก source code ลงใน python application และเชื่อมโยงการอ้างอิงได้ด้วยตนเอง
ก้าวต่อไปของ Binance
Binance กําลังพิจารณาเปิดตัว ZK-SNARKs ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดย ZK-SNARKs จะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่เพิ่มคุณสมบัติในด้านความเป็นส่วนตัวและลดขั้นตอนที่ยุ่งยากของกลไกพิสูจน์เงินทุนสำรอง (Proof of Reserves) และสินทรัพย์ของผู้ใช้งาน เหตุผลที่ไบแนนซ์ต้องการเปิดตัวบริการนี้ มาจากการที่ Binance เป็นผู้ให้บริการการวางหลักประกัน (Margin) และสินเชื่อ (Loan) ในบางประเทศ ดังนั้นผลการตรวจสอบซึ่งแสดงยอดสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นและหนี้สินของผู้ใช้งานแต่ละคน (Net Balance = Equity – Debt) จะทำให้ผู้ใช้งานบางคนมียอดคงเหลือติดลบในสินทรัพย์ของตนเอง ด้วยเหตุนี้ Binance จึงพยายามนํา ZK-SNARKs เข้ามาใช้เพื่อให้เป็นอีกวิธีหนึ่งสําหรับผู้ใช้งานในการพิสูจน์ว่ามีสินทรัพย์อื่นๆ เป็นหลักประกันเพียงพอที่จะคุ้มครองเงินทุนของพวกเขา โดยวิธีนี้จะช่วยพิสูจน์ว่ายอดสุทธิรวม (คิดเป็นสกุลเงิน USD) ของผู้ใช้งานแต่ละคนไม่ติดลบ
ยึดมั่นในสิ่งที่ตั้งใจ
การอัปเดตข้อมูลล่าสุดจาก Binance เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนว่าเรามีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้งานในอัตราส่วน 1:1 (รวมถึงเงินทุนสํารอง) โดย Binance ยังคงเป็นบริษัทที่มีหนี้เป็นศูนย์ในโครงสร้างเงินทุน อีกทั้งยังมีกองทุนฉุกเฉิน (กองทุน emergency fund (SAFU fund)) เพื่อปกป้องผู้ใช้งานในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง