Play
‘แกร็บ’ทุ่ม 2.5 หมื่นล้าน ขยายลงทุนอินโด 4 ปี
บริษัทให้บริการแอพเรียกรถ “แกร็บ” ประกาศลงทุน 700 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 2.52 หมื่นล้านบาท) ในการขยายงานในประเทศอินโดนีเซียในช่วง 4ปี เพื่อรับมือกับการแข่งขันระบบบริการขนส่งส่วนบุคคลที่รุนแรงขึ้น
สถานีโทรทัศน์ชาแนลนิวส์เอเชีย (ซีเอ็นเอ) รายงานว่าขณะนี้มีบริษัทเทคโนโลยีที่แข่งขันให้บริการขนส่งส่วนบุคคลในประเทศอินโดนีเซีย 3 รายคืออูเบอร์จากสหรัฐอเมริกา แกร็บ จากมาเลเซียและ โก-เจ็ค ซึ่งเป็นของคนอินโดนีเซีย ทำให้ธุรกิจแอพเรียกใช้บริการขนส่งส่วนบุคคลในประเทศอินโดนีเซีย มีการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดในอาเซียน โดยทั้งแกร็บและโก-เจ็ค ล่าสุดได้ขยายการแข่งขันเข้าสู่บริการการเงินฟินเทค โดยใช้ฐานธุรกิจจากแอพเรียกบริการรถแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์
ซีเอ็นเอ รายงานว่าแกร็บ มีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์วิจัย (อาร์แอนด์ดี) ในอินโดนีเซีย ตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนและพัฒนาแพลตฟอร์มระบบการชำระเงิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจฟินเทค และยังได้จ้างอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย เป็นประธานฝ่ายธรรมาภิบาลองค์กร
แถลงการณ์จากแกร็บ ชี้ว่าศูนย์อาร์แอนด์ดีที่จะจัดตั้งขึ้นที่นครจาการ์ตา จะเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบอัลกอริทึ่ม ที่ใช้งานกับกฎระเบียบบนท้องถนนของนครจาการ์ตาโดยเฉพาะ ส่วนกองทุนเพื่อการลงทุนนั้นจะจัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในสตาร์ต-อัพท้องถิ่นโดยเฉพาะโดยมีวงเงินลงทุนเริ่มต้น 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท)
ซีเอ็นเอ ระบุว่า แกร็บ เป็นสตาร์ต-อัพของอาเซียนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนนานาชาติมากที่สุดโดยในรอบการระดมทุนในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ระดมได้เงินทุนถึง 750 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท) บนการประเมินมูลค่าของ แกร็บ ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.08 แสนล้านบาท)
แกร็บเป็นสตาร์ต-อัพ กิจการแรก ๆ ของอาเซียนที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับขึ้นเป็น ยูนิคอร์น หรือกิจการสตาร์ต-อัพที่มีมูลค่ากิจการเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) มี บริการแอพเรียกมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ บริการรถร่วมทั้งขนส่งบุคคลและสินค้า ภายใต้ชื่อ แกร็บคาร์แกร็บไบค์แกร็บแท็กซี่และแกร็บฟู้ดส์ใน 31 เมือง ใหญ่ของ 6 ประเทศสมาชิกอาเซียนโดยเริ่มขยายธุรกิจฟินเทคโดยเปิดบริการ แกร็บเปย์ เมื่อเร็วๆ นี้
แกร็บขยายธุรกิจเข้าสู่ฟินเทคในอินโดนีเซียโดยร่วมกับธนาคาร มันดีรี (Mandiri) ซึ่งเป็นธนาคารท้องถิ่นใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศให้บริการ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และร่วมกับแพลตฟอร์มการชำระเงินของธนาคารลิปโป้กรุ๊ป ทำให้สามารถลูกค้าสามารถใช้ แกร็บเปย์ ได้ที่เครือข่ายสาขาของลิปโป้
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ แกร็บ คือนายแอนโทนี ตัน ชาวมาเลเซีย ที่มีปู่เป็นชาวจีนอพยพที่ทำงานหาเลี้ยงชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ในมาเลเซียก่อนจะหันมาเป็นผู้นำเข้ารถนิสสันจากญี่ปุ่น เป็นกิจการเล็ก ๆ และมีนาย ตัน เฮง ชิว ซึ่งเป็นบิดา สานต่อธุรกิจของปู่จนกลายเป็นบริษัทตันจง มอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (Tan Chong Motor Holdings) อาณาจักรธุรกิจขายรถยนต์ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย
นายตันจบมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดบิสซิเนสสคูล สหรัฐอเมริกา เริ่มทำงานทางด้านการตลาดในบริษัทตันจง มอเตอร์ ก่อนที่จะก่อตั้งแกร็บในปีพ.ศ. 2555 หลังจากโดนเพื่อนจากมหาวิทยาลัย บ่นว่าเรียกแท็กซี่ในมาเลเซียยากมาก ทำให้นายตัน ตัดสินใจ ก่อตั้งบริษัทที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับคนหารถแท็กซี่ โดยเริ่มจากศูนย์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560
สถานีโทรทัศน์ชาแนลนิวส์เอเชีย (ซีเอ็นเอ) รายงานว่าขณะนี้มีบริษัทเทคโนโลยีที่แข่งขันให้บริการขนส่งส่วนบุคคลในประเทศอินโดนีเซีย 3 รายคืออูเบอร์จากสหรัฐอเมริกา แกร็บ จากมาเลเซียและ โก-เจ็ค ซึ่งเป็นของคนอินโดนีเซีย ทำให้ธุรกิจแอพเรียกใช้บริการขนส่งส่วนบุคคลในประเทศอินโดนีเซีย มีการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดในอาเซียน โดยทั้งแกร็บและโก-เจ็ค ล่าสุดได้ขยายการแข่งขันเข้าสู่บริการการเงินฟินเทค โดยใช้ฐานธุรกิจจากแอพเรียกบริการรถแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์
ซีเอ็นเอ รายงานว่าแกร็บ มีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์วิจัย (อาร์แอนด์ดี) ในอินโดนีเซีย ตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนและพัฒนาแพลตฟอร์มระบบการชำระเงิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจฟินเทค และยังได้จ้างอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย เป็นประธานฝ่ายธรรมาภิบาลองค์กร
แถลงการณ์จากแกร็บ ชี้ว่าศูนย์อาร์แอนด์ดีที่จะจัดตั้งขึ้นที่นครจาการ์ตา จะเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบอัลกอริทึ่ม ที่ใช้งานกับกฎระเบียบบนท้องถนนของนครจาการ์ตาโดยเฉพาะ ส่วนกองทุนเพื่อการลงทุนนั้นจะจัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในสตาร์ต-อัพท้องถิ่นโดยเฉพาะโดยมีวงเงินลงทุนเริ่มต้น 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท)
ซีเอ็นเอ ระบุว่า แกร็บ เป็นสตาร์ต-อัพของอาเซียนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนนานาชาติมากที่สุดโดยในรอบการระดมทุนในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ระดมได้เงินทุนถึง 750 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท) บนการประเมินมูลค่าของ แกร็บ ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.08 แสนล้านบาท)
แกร็บเป็นสตาร์ต-อัพ กิจการแรก ๆ ของอาเซียนที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับขึ้นเป็น ยูนิคอร์น หรือกิจการสตาร์ต-อัพที่มีมูลค่ากิจการเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) มี บริการแอพเรียกมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ บริการรถร่วมทั้งขนส่งบุคคลและสินค้า ภายใต้ชื่อ แกร็บคาร์แกร็บไบค์แกร็บแท็กซี่และแกร็บฟู้ดส์ใน 31 เมือง ใหญ่ของ 6 ประเทศสมาชิกอาเซียนโดยเริ่มขยายธุรกิจฟินเทคโดยเปิดบริการ แกร็บเปย์ เมื่อเร็วๆ นี้
แกร็บขยายธุรกิจเข้าสู่ฟินเทคในอินโดนีเซียโดยร่วมกับธนาคาร มันดีรี (Mandiri) ซึ่งเป็นธนาคารท้องถิ่นใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศให้บริการ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และร่วมกับแพลตฟอร์มการชำระเงินของธนาคารลิปโป้กรุ๊ป ทำให้สามารถลูกค้าสามารถใช้ แกร็บเปย์ ได้ที่เครือข่ายสาขาของลิปโป้
ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ แกร็บ คือนายแอนโทนี ตัน ชาวมาเลเซีย ที่มีปู่เป็นชาวจีนอพยพที่ทำงานหาเลี้ยงชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ในมาเลเซียก่อนจะหันมาเป็นผู้นำเข้ารถนิสสันจากญี่ปุ่น เป็นกิจการเล็ก ๆ และมีนาย ตัน เฮง ชิว ซึ่งเป็นบิดา สานต่อธุรกิจของปู่จนกลายเป็นบริษัทตันจง มอเตอร์ โฮลดิ้งส์ (Tan Chong Motor Holdings) อาณาจักรธุรกิจขายรถยนต์ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย
นายตันจบมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดบิสซิเนสสคูล สหรัฐอเมริกา เริ่มทำงานทางด้านการตลาดในบริษัทตันจง มอเตอร์ ก่อนที่จะก่อตั้งแกร็บในปีพ.ศ. 2555 หลังจากโดนเพื่อนจากมหาวิทยาลัย บ่นว่าเรียกแท็กซี่ในมาเลเซียยากมาก ทำให้นายตัน ตัดสินใจ ก่อตั้งบริษัทที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับคนหารถแท็กซี่ โดยเริ่มจากศูนย์
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560