เซ็นทรัล เดินหน้าภารกิจพิชิตตำแหน่ง “ผู้นำ”ชี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับโลกเปลี่ยน ผู้บริโภคเปลี่ยน คาด 10 ปีรู้ผล พร้อมเดินหน้าลงทุน 4.5 หมื่นล้านทั้งในและต่างประเทศ
กลายเป็นความท้าทายของแม่ทัพใหญ่อย่าง “ทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัลจำกัด หลังประกาศ “บิ๊กชาเลนจ์”กลุ่มเซ็นทรัลในวันนี้คือ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโลกเปลี่ยน คนเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งทำคือ การเรียนรู้ถึงสิ่งใหม่ โลกใหม่ และคนใหม่ พร้อมกับนำเสนอให้ตรงกับความต้องการ ซึ่งภายในระยะเวลา 10 ปีนับจากนี้จะวัดได้ว่าใครคือ ผู้นำที่แท้จริงและจะเป็นบทพิสูจน์ว่า “เซ็นทรัล”ใช่ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกหรือไม่
“ทศ” บอกว่า ปีนี้เป็นปีที่เซ็นทรัลพร้อมรุกเต็มที่ ด้วยโฟกัสยุทธศาสตร์ใน 3 ด้าน ได้แก่Technology transformation, Human transformation และ Strategic alliances and partnershipเพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงลูกค้าบนโลกดิจิตอล ซึ่งตลอดระยะเวลา 4-5ปีที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าการเชื่อมต่อระหว่างออนไลน์และออฟไลน์จะเกิดขึ้นแบบไร้รอยต่อ สู่ออมนิแชนเนล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
[caption id="attachment_133210" align="aligncenter" width="370"]
เซ็นทรัลชู‘ดิจิทัลเซ็นทราลิตี้’พลิกกลยุทธ์เชื่อมออนไลน์-ออฟไลน์รับโลกเปลี่ยน[/caption]
ภายใต้แนวคิด “ดิจิทัลเซ็นทราลิตี้” จะเป็นการสร้างวัฒนธรรมการให้บริการโดยมลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ดำเนินแผนการตลาดและการสื่อสารในรูปแบบใหม่ เพิ่มศักยภาพบุคลากรทางด้านดิจิตอล ใช้ศักยภาพที่แข็งแกร่งของทั้งกลุ่ม การรวมศักยภาพของธุรกิจในเครือบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดการเพิ่มสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ การพัฒนาออนไลน์แพลตฟอร์ม เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการแบบใหม่ เป็นต้นโดยที่ผ่านมาบริษัทใช้งบประมาณในการพัฒนาระบบต่างๆ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาทต่อปีในปีหน้าด้วย
อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมของกลุ่มเซ็นทรัลในปีที่ผ่านมาจะมีการเติบโต 17.2% แต่การเติบโตส่วนใหญ่มาจากห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งพบว่ามีตัวเลขการเติบโตกว่า 30%ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การดำเนินงานในประเทศไทยมีการเติบโตเพียง 5% แต่แผนการลงทุนของเซ็นทรัลซึ่งในปนี ี้จะใช้เงินลงทุน 4.55 หมื่นล้านบาทกว่า 4 หมื่นล้านบาทยังเป็นการลงทุนในประเทศโดยเฉพาะการขยายสาขาใหม่เป็นหลัก ยังไม่นับรวม Merger and Acquisitions(M&A) หรือ การซื้อกิจการหรือการควบรวมกิจการที่ยังเปิดกว้างพร้อมลงทุนหากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและน่าสนใจ
สำหรับผลประกอบการของกลุ่มเซ็นทรัลในปีนี้ ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 3.82 แสนล้านบาท เติบโต 14.9% จากปีก่อนที่มียอดขาย 3.32 แสนล้านบาท ใช้งบลงทุน 3.9 หมื่นล้านบาท สำหรับการลงทุนปรับปรุงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในไทย 4 แห่ง และยุโรป ทั้งอิลลุม (เดนมาร์ก) อัลสแตร์เฮาส์(เยอรมนี) โอเบอร์โพลลิงเกอร์(เยอรมนี) และคาเดเว (เยอรมนี)การขยายศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ 3 แห่งได้แก่ เซ็นทรัล พลาซานครศรีธรรมราช โรบินสันนครศรีธรรมราช และโรบินสันไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ลพบุรี การเปิดร้านค้าใหม่ในไทยและเวียดนาม271 แห่ง ได้แก่ ร้านอาหาร 81แห่ง ร้านสะดวกซื้อ 48 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 44 แห่ง ร้านค้าเฉพาะทาง 71 แห่ง และร้านแฟชั่น 27 แห่ง
นอกจากนี้ยังเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่“Escent” 3 แห่งที่เชียงใหม่ระยอง และขอนแก่น โรงแรมใหม่ในเครือเซ็นทาราอีก 3 แห่งที่จอมเทียน พัทยา และกระบี่ยังไมนั่บรวมการควบรวมกิจการกับห้างบิ๊กซี ประเทศเวียดนามซึ่งใช้งบลงทุนราว 4 หมื่นล้าบาท และการเข้าซื้อธุรกิจซาโลร่า (Zalora) ในประเทศไทยและเวียดนามด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,241 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2560