3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงพิเศษ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

04 พ.ค. 2562 | 05:51 น.

กองทัพบก นำปืนใหญ่โบราณ 4 กระบอก ออกมาร่วมด้วยกองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ / บริเวณท้องสนามหลวง

กองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือกรุงเทพ ทำการยิงสลุต ณ บริเวณป้อมวิชัยประสิทธิ์ ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม

กองทัพอากาศ โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน / ทำการยิงสลุต บริเวณโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช

 ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 จะทำการยิง 3 ช่วง

ช่วงแรก เวลา 10.09 น. ยิงสลุตหลวงพิเศษ จำนวน 101 นัด เริ่มยิงเมื่อ เลขาธิการพระราชวังไขสหัสธาราอันเจือด้วยด้วยน้ำเบญจคงคาและน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 4 สระ

ช่วงที่ 2  เวลา 10.59 น.จำนวน 101 นัด ยิงเมื่อ พระราชพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ทูลเกล้าฯ ถวายพระสุพรรณบัฏ ปืนโบราณ 4 กระบอก จะทำการยิงกระบอกละ 10 นัด (รวมเป็น 40 นัด) ขณะเดียวกัน ปืนใหญ่จะทำการยิงสลุตจำนวน 101 นัด

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงพิเศษ  งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงพิเศษ  งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ช่วงที่ 3 เวลา 14.20 น. ยิงสลุตหลวง 21 นัด เริ่มยิงเมื่อ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญนสิงหาสน์ โดยปืนใหญ่จะทำการยิงสลุตจำนวน 21 นัด

วันที่ 5 พฤษภาคม 2562

 เวลา 16.30 น. ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เริ่มยิงเมื่อมีการยาตราริ้วขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค โดยปืนใหญ่จะทำการยิงสลุตจำนวน 21 นัด

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงพิเศษ  งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

3 เหล่าทัพยิงสลุตหลวงพิเศษ  งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

วันที่ 6 พฤษภาคม 2562

เวลา 16.30 น. ยิงสลุตหลวง จำนวน 21 นัดเริ่มยิงเมื่อเสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท โดยปืนใหญ่จะทำการยิงสลุตจำนวน 21 นัด

 

ข้อแตกต่างของการยิงสลุตหลวง กับการยิงปืนใหญ่ คือ

การยิงสลุตหลวง จะเป็นการยิงปืนใหญ่ที่มีขนาดลำกล้องไม่เกิน 120 มิลลิเมตร โดยใช้ ปืนใหญ่ไม่น้อยกว่า 4 กระบอก เพื่อเป็นการถวายคำนับต่อองค์พระมหากษัตริย์ จำนวน 21 นัด

ส่วนการยิงปืนใหญ่ ที่ใช้ฝึกทั่วไป จะมีขนาด 105 มิลลิเมตร และ 155 มิลลิเมตร

การยิงสลุตหลวง เป็นธรรมเนียมที่ถูกอารยะประเทศทั่วโลกยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล การยิงสลุตคือการแสดงความเคารพให้แก่ชาติ หรือธง หรือบุคคล โดยยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำ หรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ

จุดเริ่มต้นของธรรมเนียมการยิงสลุต เล่ากันว่า ในสมัยโบราณ เรือสินค้าที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลในระยะทางไกล จำเป็นจะต้องมีปืนใหญ่ไว้คุ้มครองสินค้าบนเรือ และต้องมีการบรรจุดินปืนในกระบอกปืนไว้ก่อน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมหากมีกรณีฉุกเฉิน แต่เมื่อเรือเดินทางไปถึงท่าเรือของประเทศที่ทำการค้าด้วย ต้องยิงปืนใหญ่ที่บรรจุแต่ดินปืนออกไปให้หมด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่ามาอย่างมิตร ไม่ใช่ศัตรู ตั้งแต่นั้นมาจึงได้เกิดเป็นประเพณีการยิงสลุตขึ้น เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อกันระหว่างเจ้าบ้านและผู้มาเยือน อันเป็นประเพณีที่ชาวเรือได้สืบทอดกันต่อมาจวบจนปัจจุบัน