สวนสามพราน ฉลองปีที่ 58 ปี ประกาศก้าวสู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดโซนกิจกรรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สวนสามพราน กล่าวว่า จุดเด่นของสวนสามพราน คือความเป็นธรรมชาติ อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ มีความครบวงจร ที่พัก ห้องประชุม ร้านอาหาร ลานกิจกรรม และมุมสวนธรรมชาติ ที่สามารถ ปรับ จัด ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก รวมถึงกิจกรรม Team Building การประชุมสัมมนาที่ต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ขณะที่กิจกรรมการท่องเที่ยว และการเรียนรู้ภายในสวนสามพราน นั้นเอื้อต่อการคิดนอกกรอบ โดยทุกจุดสามารถจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย และมี Work Shop ให้ทดลองทำ ที่พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีคุณค่า รวมถึงยังสามารถเชื่อมโยงไปเยี่ยมบ้านฟาร์มเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายด้วย
ความโดดเด่นและแตกต่างของสวนสามพราน เป็นผลมาจากการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์ ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง นั่นคือเมนูอาหาร ในห้องอาหารทั้ง3 แห่งของสวนสามพราน คือ อินจัน แวนด้า และห้องอาหารริมน้ำ รวมถึงในส่วนการจัดเลี้ยง ที่จะมีการใช้วัตถุดิบอินทรีย์ มากกว่า 70% หรือประมาณ 15 ตันต่อเดือน ในการทำอาหารและขนม โดยวัตถุดิบอินทรีย์ จะถูกส่งตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายสามพรานโมเดล นอกจากดีต่อสุขภาพทุกคนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ให้ยั่งยืน ซึ่งในแต่ละจุดของห้องอาหาร และจัดเลี้ยง จะมีภาพและชื่อเกษตรกรอินทรีย์ที่ทำงานร่วมกับสวนสามพรานพร้อมบอกผลผลิตที่ผลิตด้วย โดยปัจจุบันมีเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลจำนวน 16 กลุ่มจำนวน 180 ครอบครัว ในจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์
นอกจากมาท่องเที่ยว พักผ่อนแล้ว ทุกคนที่เข้ามาสวนสามพราน จะได้แรงบันดาลใจ จากความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ จากการทำงานขับเคลื่อนสามพรานโมเดลของสวนสามพรานร่วมกับเกษตรกรและภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิตปัจจัยการผลิต การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การตลาด การพัฒนาต่อยอด และบอกเล่า โดยพื้นที่หลายส่วนมีการบริหารจัดการ ภายใต้แบรนด์ Patom อาทิ Patom Organic Farm, Patom Organic Village, Patom Organic Café, Patom Spa, Patom Shop รวมถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ Patom ซึ่งนำวัตถุดิบอินทรีย์จากเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล และปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม มาแปรรูปเป็นของกินของใช้ และ Body Care Products มาตรฐาน GMP ภายใต้แนวคิด Organic Living ด้วย
ในด้านความรู้ ยังมีการก่อตั้งสามพรานโมเดล อะคาเดมี่ โดยมีพื้นที่สำนักงานติดกับตลาดสุขใจเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ประกอบการ องค์กรที่อยากจะนำ สามพรานโมเดลไปขยายผล ไปขับเคลื่อนในพื้นที่ของตนเอง
สวนสามพรานได้เปิดพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยือนได้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆเพื่อการเปลี่ยนแปลง เริ่มจากหมู่บ้านปฐม ที่ปรับเปลี่ยนศูนย์แสดงวัฒนธรรมไทย (หมู่บ้านไทย) มาเป็น“ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ” หมู่บ้านแปรรูปสินค้าอินทรีย์ ตามวิถีชีวิตแบบไทย ที่ยึดหลักปัจจัย 4 ผ่านการทำกิจกรรมตามเส้นทางวัตถุดิบ สร้างประสบการณ์ โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำ เพื่อเรียนรู้ระบบอาหาร ตั้งแต่การผลิต การทำปัจจัยการผลิต การแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่าย โดยมี3 เส้นทาง ให้เลือกเรียนรู้ คือเส้นทางข้าวอินทรีย์ เส้นทางกล้วยอินทรีย์ และเส้นทางสมุนไพรอินทรีย์
ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม ได้พัฒนาสวนผลไม้เก่า 30 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน เป็นออร์แกนิกฟาร์ม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกิจกรรมท่องเที่ยวฟาร์มที่อิงกับวัตถุดิบตามฤดูกาล ให้เป็นที่พักผ่อนแนวธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองกิจกรรมเพื่อทำ Workshop การทำเกษตรอินทรีย์เบื้องต้น รวมถึงมาทำอาหาร และได้สัมผัสกับรสชาติอาหารจากพืชผักธรรมชาติ สด สะอาดปลอดภัย แตกต่างจากพืชผักที่ขายในตลาดทั่วไปด้วยตนเอง
ส่วนตลาดสุขใจ ภายในสวนสามพราน เป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม หรือสามพรานโมเดลที่สามารถเข้ามาเรียนรู้การทำเกษตรกรอินทรีย์ ซึ่งมีกว่า 180 ครอบครัว และชุมชนรอบสวนสามพรานเข้าร่วม และยังเป็นช่องทางการจำหน่ายผลผลิตอินทรีย์ ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง
สวนสามพรานดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมี โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ IFOAM มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 มีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มีการจัดการขยะจากอาหาร(Food Waste Management) โดยขยะจากในห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ส่วนกิจกรรม จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ทำชีวภัณฑ์ในการดูแลต้นไม้ในพื้นที่ ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำไบโอแก๊สใช้ในกิจกรรมย้อมผ้า ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งผู้ที่เข้ามาสวนสามพรานสามารถมาเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จากฐานสาธิต และสถานีทดลองการทำปุ๋ยหมักในหมู่บ้านปฐม ที่มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ พร้อมสอนทำ และแนะนำรูปแบบ ให้นำกลับไปทำที่บ้านได้
สวนสามพรานก่อตั้งในปี พ.ศ. 2505 โดยเป็นแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ใกล้กรุงเทพฯ ที่ถ่ายทอดวิถีความเป็นไทย ผ่านกิจกรรมในหมู่บ้านไทยและโรงละคร ที่นี่จึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆอยู่เสมอ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทย รวมถึงกลุ่มครอบครัว นิยมเดินทางมาสวนสามพรานเพื่อพักผ่อน สัมผัสความเป็นธรรมชาติ และเรียนรู้วิถีประเพณีวัฒนธรรม การละเล่น ศิลปะหัตถกรรมไทย และขนมไทย
หลังจากที่สวนสามพรานได้เป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนระบบอาหารยั่งยืนภายใต้สามพรานโมเดล(โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม) เชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 ได้นำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสวนสามพราน โดยในปี 2561-2562 สวนสามพรานตัดสินใจปิดหมู่บ้านไทย พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในใหม่ทั้งหมด โดยใช้สามพรานโมเดล เป็นโมเดลหลักในการขับเคลื่อนแบรนด์สวนสามพราน ให้เป็นแบรนด์ ที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน ภายใต้วิสัยทัศน์สร้างระบบอาหารยั่งยืน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล