ค้าปลีกไทยกำลังผงาดในเวทีธุรกิจค้าปลีกโลก หลังจากปี 2554 เซ็นทรัลรีเทลประกาศซื้อห้างหรู Rinascente ประเทศอิตาลี 100% ปี 2556 เข้าซื้อ Illum ประเทศเดนมาร์ก และปี 2558 ซื้อห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ “KaDeWe” กรุ๊ป ประเทศเยอรมนี
การซื้อห้างหรูในเยอรมนีเป็น การถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 50.01%อีก 49.9 % Signa’ s โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นเจ้าของ ห้างหรูเก่าแก่ 3 แห่งประกอบด้วย KaDeWe เบอร์ลิน Oberpollingerมิวนิก Alsterhaus ฮัมบูร์ก และยังมีแผนขยายแห่งที่ 4 ที่ Dusseldorf
จากนั้นได้ทุ่มงบประมาณนับร้อยล้านยูโร เพื่อปรับโฉมครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อชิงความเป็นผู้นำของห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมของยุโรป
โฉมใหม่จึงว้าว! นับตั้งแต่ก้าวแรก หลังจากผู้บริหาร “สุพัตรา จิราธิวัฒน์” นำทีมสื่อมวลชนจากไทยไปสัมผัสเพื่อให้เห็นถึงการพลิกโฉมครั้งใหญ่ ตอกยํ้าความเป็นลักชัวรี ตั้งแต่ชั้น G ที่เป็นศูนย์รวมของแบรนด์ดังระดับโลกจากฝรั่งเศสและอิตาลี อย่าง Louis Vuitton, Dior ปราด้า กุชชี่ ชาเนล ฯลฯ ที่ตั้งท่ารอนักช็อปรสนิยมสูง กระเป๋าหนัก รวมถึง Rolex นาฬิกาแบรนด์แรกที่เข้ามาเปิดในห้างด้วย
อีกทั้งด้วยความที่ KaDeWeเป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่อายุ กว่า112 ปีตั้งอยู่กลางแลนด์มาร์กกรุงเบอร์ลิน มีขนาดพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร จึงจัดเป็นห้างใหญ่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงเป็นจุดได้เปรียบและยิ่งได้กลุ่มเซ็นทรัลที่นำประสบการณ์ค้าปลีกอันยาวนานเข้าไปช่วยต่อยอดการขายได้ไม่ยาก
ส่วนโฉมใหม่เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ความทันสมัย หรูหรา สไตล์ ดั้งเดิมแบบเยอรมนีกับความเป็นสากลที่เข้ากันอย่างลงตัว โดยสถาปนิกระดับโลก “แร็ม โกลฮาส” เริ่มต้นจากการปรับทางเข้าและหน้าต่าง 10 บานที่หันออกสู่ถนนโทเอนซีนสตราส์เซอ (Tauentzienstrasse)
โดยซุ้มหน้าต่างนั้นออกแบบมาให้คล้องกับดีไซน์ต้นแบบของอาคารนี้ในยุคแรกๆ ภายใต้แนวคิด “Dissolved Spaces” เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก พื้นและเพดานแต่งด้วยสีออฟไวต์สื่อถึงการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อของแต่ละโซน สร้างความรู้สึกโปร่งและโล่ง ในสไตล์ “Loft”
ภายในมีการจัดวางสินค้า แต่ละแผนก ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่มิลเลนเนียล ลํ้าด้วยแฟชั่นนำสมัย แต่ละแผนกมีการออกแบบที่แตกต่างกัน อย่างแผนเสื้อผ้าสตรีชั้น 2 ออกแบบโดยชาวปารีส อินเดีย มาดาวี เน้นความหรูหรา มีเอกลักษณ์ มีทั้งแบรนด์ระดับโลกผลงานดีไซเนอร์ เยอรมัน แบรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง แผนกรองเท้า เครื่องหนังชายออกแบบ โดยกลุ่ม Storage Associati จากมิลาน เน้นดีไซน์ ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ตอกยํ้าความต้องการที่เหนือระดับกว่าห้าง อื่นๆในยุโรป
ชั้น 5 เป็น “New Kitchen” จำหน่ายเครื่องใช้ภายในบ้านมีแบรนด์ ชั้นนำจากทั่วโลก ชั้น 6 “ฟู้ดฮอลล์” ในห้างที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นการผสมผสานระหว่างพื้นที่ร้านค้ากับร้านอาหาร โซนขนมหวาน แบรนด์ดัง ขนมท้องถิ่น ช็อกโกแลต ชา แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ดังของเบอร์ลิน
อีกทั้งปีที่แล้ว KaDeWe ยังได้เปิดตัวโซนอาหารโฉมใหม่ ให้บริการแชมเปญ ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และชีส นอกจากนี้มีร้านอาหารเปิดใหม่อีก 3 ร้าน Beef GrillClub by Hasir, Laggner Schwemme และ Lutter & Wegner และพื้นที่ชั้นนี้จะเปิดให้บริการนอกเวลาทำการปกติของห้างให้ลูกค้าได้ชมทิวทัศน์ของกรุงเบอร์ลินบนรููฟท็อป
ลูกค้าคือ “พระเจ้า” ฉันใดก็ฉันนั้นฝ่ายบริหารได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจนักช็อปมี Loyalty Card เพื่อให้สิทธิพิเศษต่างๆ แต่ไม่ลดราคา บริการช็อปเปอร์ส่วนตัว ชำระเงินค่าบริการผ่านโมบายเพลย์เมนต์ รับฝากสินค้า บริการยกสินค้า ออนดีมานด์เซอร์วิส ฯลฯ
ที่ถูกใจต่างชาติเห็นทีจะเป็นบริการการคืนภาษี Tax Free ที่ทำได้ทันทีและจ่ายคืนเป็นเงินสดๆ หักกลบลบค่าบริการจาก โกลบัล บูล แล้วจะได้เงินคืนราว 11% ซึ่งน่าจะถูกใจนักช็อปต่างชาติ ทั้งจีน ตะวันออกกลาง รัสเซีย ลูกค้ารายใหญ่ของที่นี่ ส่่วนลูกค้าคนไทยเมื่อซื้อสินค้าที่นี่ยังได้รับสิทธิ์สะสมคะแนนเซ็นทรัล เดอะ วันการ์ด ด้วย
หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,531 วันที่ 15 - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562