"วันพืชมงคล"อาจเป็นวันหยุดของหลายคน แต่ที่ศาลากลางจังหวัดเลย ยังคงมีการประชุมแก้ไขปัญหาโควิด 19 ขนส่งจังหวัดเลยแจ้งที่ประชุมว่า “คนอำเภอภูหลวง 9 คน ไปทำงานที่กระบี่อยากกลับบ้าน ไม่มีเงินเหมารถ โทรฯหาผู้ว่าให้ช่วยออกเงินค่าเช่ารถให้ด้วย ค่าเหมา 16,000 บาท”
แอบนึกในใจ ทำไมไม่ขึ้นรถโดยสารกลับมา ขนส่งจังหวัดเลย เล่าให้ฟังต่อว่า "อาจจะย้ายครอบครัวกลับมา มีที่นอนหมอนมุ้ง มอเตอร์ไซค์ 3 คัน หมา 2 ตัว" มิน่าถึงต้องเหมารถ ขนส่งจังหวัดเลย พูดต่อว่า “1 หมื่น 6 พันบาท ผู้ว่าฯ ใช้เงินส่วนตัวจ่าย ปลายสายที่โทรฯมา บอกผู้ว่าฯ ให้ด้วย ขอให้ช่วยออกครึ่งหนึ่ง กลับมาแล้วจะยืมเงินพี่น้องมาคืน แต่ให้ผู้ว่าฯ จ่ายทั้ง 1 หมื่น 6 พันบาท ไปก่อน”
ผู้ว่าฯ ถามที่ประชุมว่า “ถ้าเราจะให้ทั้งหมด 1 หมื่น 6 พันบาท แต่ขอให้พี่น้องที่ใช้เงินเราไปปลูกต้นไม้ทดแทนการคืนเงิน จะดีมั้ย
ปลูกป่า ปลูกไม้กินได้ เอาไว้เก็บสะเดา เก็บขี้เหล็ก คนรุ่นต่อไปก็ยังได้ประโยชน์” .....
ที่ประชุมเห็นด้วย ให้ปลัดจังหวัดเลยและหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเลย ไปเตรียมพันธุ์ไม้ 1 พันต้น
เสร็จประชุม ผู้ว่าฯ ควักเงินส่วนตัวมัดจำค่ารถ ให้ขนส่งจังหวัดเลย 8 พันบาท
นายกเทศมนตรีเมืองเลย เดินเข้ามาช่วยด้วย หัวหน้าส่วนราชการขอมีส่วนส่วนทำบุญคนละเล็กละน้อย
“ได้ช่วยคน ได้บุญ ได้ป่า”
วันเดียวกัน ที่บริเวณด้านหน้าห้องประชุมศรีสองรัก ชั้น ๕ ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รับมอบเงินจำนวน 153,900 บาท จากกองทุนมิตรผล - บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย covid - 19 เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือไถ่ถอนทรัพย์สิน โดยนายคนอง ศักดิ์เพ็ชร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานโรงงานบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด และนายขัตติยะ อ่วมจันทร์ ผู้อำนวยการโรงงานน้ำตาลมิตรผล ภูหลวงด้านโรงงาน บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด (มิตรภูหลวง) เป็นผู้มอบ
โดยผู้บริหารกองทุนมิตรผล – บ้านปู แจ้งความจำนงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นำเงินจำนวนดังกล่าวไปช่วยไถ่ถอนเครื่องมือทำมาหากินจากโรงรับจำนำจังหวัดเลย ที่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเลย ไปจำนำไว้ในช่วงเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด – 19 ซึ่งไม่สามารถประกอบอาชีพรับจ้างได้ ทำให้ไม่มีเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย (นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม) ได้มอบหมายให้นางไคริกา ศิรประภาเดโช ประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย นำเงินจำนวน 153,900.-บาท ไปมอบให้กับผู้จัดการโรงรับจำนำ (นางบุศรา ชัยจันทร์) เพื่อบริหารจัดการ ตามที่กองทุนมิตรผล – บ้านปู ได้แจ้งรายละเอียด ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือทำมาหากิน รวมทั้งสิ้น ๑๕๖ รายการ เพื่อจะทำการไถ่ถอนออกไปให้ประชาชนนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ได้เดินทางไปที่โรงรับจำนำในตัวเมืองเลย เพื่อไถ่ถอนทรัพย์ประเภทเครื่องมือประกอบอาชีพ และเครื่องใช้จำเป็นในครัวเรือน เพื่อส่งคืนเจ้าของ เพื่อใช้ประกอบอาชีพหารายได้ต่อไป พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็นให้ด้วย โดยกำชับไม่ต้องบอกว่าใครไถ่ถอนให้ ถ้าอยากตอบแทนให้ทำความดี หรือถ้าตั้งหลักชีวิตได้แล้วอยากจ่ายคืนค่าไถ่ถอน ให้บริจาคสร้างอาคาร 10 ชั้นโรงพยาบาลเลย จนเป็นข่าวฮือฮา