นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำหนดแล้วว่าตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะเริ่มกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยว มาเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติได้ 127 แห่ง จากทั้งหมด 155 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นอุทยานแห่งชาติ 64 แห่งที่เปิดได้100% ท่องเที่ยวได้ทุกจุดของพื้นที่ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา หมู่เกาะช้าง น้ำตกพลิ้ว น้ำตกกองแก้ว กุยบุรี เขาสามร้อยยอด หมู่เกาะอ่างทอง ธารเสด็จ-เกาะพะงัน เขาหลวง อ่าวพังงา
ส่วนอีก 63 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ภูหินร่องกล้า ภูสอยดาว หมู่เกาะลันตา เขาพระวิหาร หาดวนกร ดอยภูคาจะเปิดให้ท่องเที่ยวบางส่วนบางจุดตามความเหมาะสม
อุทยานแห่งชาติทั้ง 127 แห่ง จะมีระบบจัดการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้เกินจำนวนที่กำหนด โดยผู้ที่จะเข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้นั้นจะต้องจองผ่านระบบล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชั่น หรือระบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยจัดสรรกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความแออัดเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผบกระทบต่อการจัดการโรคระบาด และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ
ทั้งนี้จะมีมาตรการที่เข้มงวด ตั้งแต่การคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ เช็คอินเช็คเอ้าท์ผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" มาตรการรักษาความสะอาดไม่ให้มีขยะพลาสติก ซึ่งในจุดนี้ขอย้ำว่าหากช่วงที่เปิดให้ทีองเที่ยวแล้วเกิดมีปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์ป่าตายจากขยะพลาสติก จะสั่งการปิดอุทยานแห่งนั้นอีกครั้งทันที
ส่วนอุทยานอีก 28 แห่งที่เหลือครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวในเขตทะเลอันดามัน เช่น หมู่เกาะพีพี สิมิลัน ตะรุเตา ธารโบกขรณี ทะเลบัน ศรีพังงา เขาหลัก เขาปู่-เขาย่า เทือกเขาบูโด รวมทั้งอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย และบางส่วนที่ประเมินว่าไม่ปลอดภัย กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติยังต้องปิดชั่วคราวอยู่ทั้งด้านความเหมาะสมการจัดการ หรืออยู่ในช่วงการฟื้นฟู และมีผลกระทบจากสภาพแวดล้อมตามฤดูกาล ซึ่งหากพิจารณาแล้วสามารถเปิดท่องเที่ยวได้ก็จะดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เช่นกัน