เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นปีที่ 5 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของหน่วยรับ งบประมาณ บางรายการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2563”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ “งบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า งบประมาณรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
มาตรา 4 ให้โอนงบประมาณรายจ่าย จำนวน 88,452,597,900 บาท ของหน่วยรับงบประมาณตามรายการดังต่อไปนี้ ไปตั้งไว้เป็นงบประมาณรายจ่าย สำหรับงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
สำหรับ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขยายวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ แม้ว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไว้ได้แล้ว ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตภายหลังการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคของรัฐบาล ซึ่งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถือเป็นภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนและระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม รัฐบาลจึงมีภารกิจเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา บรรเทา และเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ประชาชน สังคม และระบบเศรษฐกิจ
โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น ที่ตั้งไว้ จำนวน 96,000,000,000 บาท มีไม่เพียงพอ รวมทั้งอาจมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นจากสถานการณ์ภัยแล้ง หรือสาธารณภัยอื่นที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ พ.ศ.2563
สำหรับ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขยายวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ แม้ว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไว้ได้แล้ว ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตภายหลังการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคของรัฐบาล ซึ่งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถือเป็นภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนและระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม รัฐบาลจึงมีภารกิจเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา บรรเทา และเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ประชาชน สังคม และระบบเศรษฐกิจ
โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนส่งผลให้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น ที่ตั้งไว้ จำนวน 96,000,000,000 บาท มีไม่เพียงพอ รวมทั้งอาจมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นจากสถานการณ์ภัยแล้ง หรือสาธารณภัยอื่นที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีงบประมาณ พ.ศ.256